ปัญหาเรื่องของเยอะ พื้นที่ไม่พอเก็บ จะไม่ต้องมารบกวนใจคุณอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากที่มีบริการรับฝากของและให้เช่าห้องเก็บของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ที่พร้อมตอบโจทย์ชีวิตคนกรุง และเอาใจผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรือบ้านหลังเล็ก แต่ต้องการพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ วันนี้เราจึงได้รวบรวม 3 บริษัทบริการรับฝากของและให้เช่าห้องเก็บของในกรุงเทพฯ ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า มีความปลอดภัย สะดวกสบาย แถมคุณสามารถเข้าออกพื้นที่ส่วนตัวนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
รัฐบาลจ่อเก็บ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ต่างชาติคนละ 300 บาท ดีเดย์ 1 เม.ย. นี้
ทำไมพระราม 9 จึงตอบโจทย์ด้านการเดินทางเข้า-ออกเมือง
ม.แสตมฟอร์ด ชี้ ธุรกิจออกกำลังกาย-เทรนเนอร์ออนไลน์ ดาวรุ่งยุคโควิดปี 65
- JWD Store It!
สโตร์ อิท! บริการรับฝากของและให้เช่าพื้นที่เก็บของในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ว่าคุณคือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ หรือเป็นลูกค้ารายบุคคลที่ต้องการพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ ทางสโตร์ อิท! พร้อมมอบอิสระให้คุณได้เช่าและพร้อมเป็นเจ้าของพื้นที่เก็บของแบบส่วนตัว ที่เข้าถึงง่ายพร้อมมีระบบรักษาความปลอดภัย ที่คุณยังเข้า-ออกได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ทั้งนี้ การควบคุมอุณหภูมิก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทางสโตร์ อิท! เน้นย้ำ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการรับฝากของหรือเช่าพื้นที่เก็บของด้วยเครื่องปรับอากาศ สำหรับสินค้าที่อาจเกิดความเสียหายได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นงานศิลปะ หรือเครื่องดนตรี เป็นต้น แถมยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองทั้ง 5 จุด ทำให้คุณสามารถเลือกฝากในพื้นที่ที่ใกล้บ้านหรือคอนโดคุณมากที่สุด เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางได้อีกด้วย
- Goodmove
อีกหนึ่งบริษัทบริการรับฝากของที่คุณสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพียงแค่คุณแจ้งความต้องการกับเจ้าหน้าที่ เลือกขนาดห้องหรือพื้นที่เก็บของ จากนั้นจะเป็นการทำสัญญา และคุณสามารถรับบัตรและกุญแจสำหรับล็อกได้เลย โดยที่ Goodmove ก็มีความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของสินค้า ที่เน้นย้ำให้พื้นที่ในการจัดเก็บสินค้านั้นมีการตรวจสอบโดยมีระบบกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังมีมาตรฐานในการรักษาความสะอาดภายในอาคารอีกด้วย
- Lock Box
สำหรับผู้ที่มองหาบริการรับฝากของที่เน้นสะดวก และฝากในระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นรายชั่วโมง หรือรายวัน เราขอแนะนำ Lock Box ตู้รับฝากของระบบอัตโนมัติที่ตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน มากถึง 20 จุด 14 สถานี ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝากสัมภาระขนาดเล็กหรือกลาง เพื่อไปทำธุระอื่นๆ แล้วกลับมารับของที่ฝากไว้คืน หมดกังวลเรื่องการแบกของหนักไปได้เลย
ทั้ง 3 บริษัทที่เราแนะนำคุณนี้มีจุดเด่นในเรื่องบริการรับฝากของที่แตกต่างกัน เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้บริการตามลักษณะของสิ่งของ และระยะเวลาในการฝากที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายกับคุณมากที่สุด