อาหารที่เรากินเข้าไปอยู่ในทุกวันนั้น อาจส่งผลมาในรูปแบบของเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งหากคุณรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี แต่หากใครที่มักไม่ดูแลตัวเอง และเลือกรับประทานอาหารแบบตามใจปาก อีกทั้งชอบกินอาหารที่ไม่มีใยอาหาร ก็อาจส่งผลต่อระบบขับถ่าย จนทำให้ท้องผูกและมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้ สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในเรื่องของการดูแลสุขภาพ มาเริ่มต้นจากการเลือกรับประทานอาหารกันได้เลย
ปวดท้องอย่าชะล่าใจ หลอดเลือดแดงใหญ่อาจ "ปริ แตก" อันตรายถึงชีวิต
ฉลองสงกรานต์ เลือกทานอาหารอย่างไรไม่ให้ "ท้องเสีย"
ร้อนนี้บริโภค "น้ำแข็ง" ต้องระวัง เสี่ยงทำให้ท้องเสีย-อาหารเป็นพิษ
แต่หากใครที่มีปัญหาท้องผูกและมีอาการอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการขับถ่ายด้วยความยากลำบาก หรือถ่ายไม่เป็นเวลา วันนี้เรามีเรื่องราวควรรู้ ที่ผู้สนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพห้ามพลาด!
ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดท้องผูก
สำหรับใครที่มีปัญหาท้องผูกแถมมีอาการบ่อยครั้ง คงจะต้องมาสำรวจตัวเองสักนิด ว่าเป็นอะไรกันแน่ โดยสาเหตุของปัญหาท้องผูกนั้นสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำน้อย การรับประทานอาหารที่ไม่มีกากใย การไม่ออกกำลังกาย เพราะร่างกายไม่เกิดการเคลื่อนไหวส่งผลให้ระบบลำไส้ไม่ได้ถูกกระตุ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงพฤติกรรมการกลั้นอุจจาระบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน
ท้องผูกบ่อยอาจมีอาการเหล่านี้ตามมา!
ใครที่มีปัญหาท้องผูกคงรู้ดีว่า ช่างสร้างความทรมานให้กับตัวเองมากทีเดียว เพราะนอกจากจะส่งผลต่อสภาพร่างกายแล้ว บางครั้งยังส่งผลทำให้เราเกิดความเครียด ทำให้รู้สึกไม่สดใสรวมถึงอาจเกิดอาการต่างๆ ตามมาด้วย
เพราะคนที่ท้องผูกบ่อยๆ ทำให้ต้องนั่งเพื่อออกแรงเบ่งในห้องน้ำนานกว่าปกติ ซึ่งการเบ่งอุจจาระนี้เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเราต้องเจอกับภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เกิดโรคริดสีดวง อาจทำให้ความดันในช่องทรงอกเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเป็นโรคหัวใจร่วมด้วยอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรืออาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อในอุ้มเชิงกรานมีความอ่อนแอ ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ในที่สุด
นอกจากนี้ผู้ที่เป็นท้องผูกนานๆ อาจมีอาการลำไส้อุดตัน ทำให้ปวดท้องอย่างหนัก หรืออาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนและอึดอัดแน่นท้องร่วมด้วย
แก้ปัญหาท้องผูกได้อย่างไร?
หากคุณท้องผูกและมีอาการมาได้สักพัก แนะนำว่าลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเสียใหม่ โดยเริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ที่สำคัญจะต้องเป็นอาหารที่มีกากใยไฟเบอร์ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนตัวของลำไส้ใหญ่ หรือใครจะเลือกรับประทานวิตามินต่างๆ ก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี 5 นอกจากนี้การดื่มน้ำเยอะๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน และมีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ โดยลองหันมาออกกำลังกายกันสักหน่อย เพื่อให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนไหว ปัญหาท้องผูกอาจลดลงก็เป็นได้