ศาลยกฟ้อง 2 ผู้บริหารเมก้าฯ ทำตึก SCCB ไฟไหม้ ตาย 8 เมื่อปี 2559 ระบุหลักฐานไม่ชัด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ยกฟ้อง "2 ผู้บริหาร บ.เมก้าฯ" ไม่ผิดร่วมประมาทเครื่องดับเพลิงระเบิดระหว่างติดตั้ง SCB ตาย 8 เจ็บอื้อ หลักฐานโจทก์ไม่ชัด จำเลยสู้การบริหารงาน ส่วนวิศวกร-บ.เมก้า ยังผิดรอลงอาญา 2 ปี-ปรับเงิน ต้องชดใช้ญาติผู้ตายกว่า 2 ล้าน

วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. ที่ ห้องพิจารณา 704  ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีสารเคมีระบบดับเพลิงไพโรเจนฟุ้งกระจายจนมีผู้เสียชีวิต ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)คดีหมายเลขดำ อ.1764/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 และครอบครัวของนายวิรัช ดีดพิณ , นายพีรพัฒน์ กอยประโคน , น.ส.กรรณิการ์ ประจิตร์ หรือสินศิริ คนงานที่เสียชีวิตระหว่างติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นาย ณ.พงษ์ สุขสงวน อายุ 47 ปี ประธานกรรมการบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด , นายอดิศร โฟดา อายุ 53ปี ผู้บริหาร บจก.เมก้าแพลนเน็ต , นายจิระวัฒน์ เปรมปรีดิ์ อายุ 32 ปี วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ , นายสมคิด ตันงาม อายุ 61ปี กก.บจก.โจนส์ แลงฯ , นายสมคิด จันทร์หอม อายุ 38 ปี หัวหน้าช่าง บจก.โจนส์ แลงฯ , นายตรีภพ ยังประเสริฐกุล อายุ 39 ปี ผู้จัดการดูแลอาคาร บจก.โจนส์ แลงฯ , น.ส.ขจรจิตร พรหมดีราช อายุ 47 ปี พนักงานบริษัท เอบิต มัลติซิสเต็ม จำกัด ที่รับช่วงต่อจาก บจก.เมก้า แพลนเน็ต ควบคุมดูแลการวางท่อระบบดับเพลิงภายในอาคาร , นายบุญเสริม กระจาด อายุ 38 ปี วิศวกร บจก.เอบิต มัลติซิสเต็ม ที่คุมคนงาน , บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด โดย นาย ณ พงษ์ สุขสงวน และนายอดิสร โฟดา กรรมการผู้มีอำนาจ , บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด โดย นายสมคิด ตันงาม กรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1 - 10 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300, 390

ตามฟ้องอัยการโจทก์เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.59 สรุปว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.59 เวลากลางคืน จำเลยทั้งหมด ซึ่งมีนายณ.พงษ์ จำเลยที่ 1 และนายอดิศร จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้จัดการ มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานต่างๆ ของ บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 9 ควบคุม สั่งการ และมอบนโยบายในการดำเนินงานแก่พนักงานของจำเลยที่ 9 เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2558 จำเลยที่ 9 ได้ทำสัญญากับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รับจ้างปรับปรุงและบำรุงรักษาระบบ Fire Risk Assessment โดยให้จำเลยที่ 9 ทำการติดตั้งระบบดับเพลิงแบบไนโตรเจน ที่ห้องเอกสารสำคัญชั้นบี 2 (ใต้ดิน) ประตู 5 อาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม.จำเลยที่ 1-3 รู้อยู่แล้วว่าเป็นสถานที่มีการติดตั้งระบบดับเพลิงไพโรเจนที่ใช้สารเคมีแอโรซอลซึ่งเป็นสารเคมีอันตราย จำเลยที่ 1-3 มีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัย แต่จำเลยที่ 1-3 ไม่ได้แจ้งให้ลูกจ้างและบุคคลอื่นที่ว่าจ้างมาทำงานทราบถึงการทำงานของระบบดับเพลิงไพโรเจนที่อาจเป็นอันตรายซึ่งเกิดขึ้นจากการทำงานเจาะกำแพง , เพดาน อีกทั้งไม่ได้จัดให้มีการฝึกอบรมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของเครื่องดับเพลิงไพโรเจน และอุปกรณ์เพื่อให้ลูกจ้างสวมใส่คุ้มครองความปลอดภัย , ไม่ได้แจ้งถึงวิธีการออกจากสถานที่เมื่อเกิดเหตุระบบดับเพลิงทำงานที่จะปล่อยสารแอโรซอลออกมา รวมทั้งไม่ได้หาอุปกรณ์ตรวจจับควัน ดังนั้นเมื่อลูกจ้างของจำเลยที่ 1-3 และบุคคลอื่นที่จำเลยว่าจ้างมา ได้ใช้สว่านไฟฟ้าเจาะกำแพง , เพดาน ภายในห้องเก็บเอกสารสำคัญที่เป็นสถานที่ปิด จึงเกิดควันและฝุ่นจำนวนมากสะสมอยู่ภายในห้อง แล้วเมื่อเครื่องตรวจจับควัน สามารถตรวจจับฝุ่นควันได้ จึงทำให้ระบบดับเพลิงไพโรเจนทำงานแล้วปล่อยสารแอโรซอลออกมา เป็นผลให้ลูกจ้างของจำเลยสูดหายใจเอาสารแอโรซอลเข้าไปในร่างกายจำนวนมาก กระทั่งนายวิรัช ดีดพิณ , นายพีรพัฒน์ กอยประโคน , นายสายฝน แล่นโคตร , นายยุทธนา คนการ , นายเพชร มหาสนิท , นายนัฒฐวุฒิ นาสมพงษ์ , น.ส.วิลัย ขันทอง และ น.ส.กรรณิการ์ ประจิตร์ หรือสินศิริ รวม 8 รายถึงแก่ความตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจเพราะพิษก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และทำให้นายฉัตรชัย ขันทอง ได้รับอันตรายสาหัส เหตุเกิดที่แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. ชั้นพิจารณาจำเลยทั้ง 10 คนให้การปฏิเสธ และระหว่างพิจารณาคดีได้ประกันตัวไปคนละ 500,000 บาท

คอนเทนต์แนะนำ
"ไทยพาณิชย์" แจงเหตุไฟไหม้สำนักงานใหญ่

ขณะที่คดีนี้ "ศาลชั้นต้น" มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.60 เห็นว่า แม้จำเลยที่ 1-2 ซึ่งเป็นผู้บริหาร บจก.เมก้าฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง แต่มีหน้าที่กำกับดูแล ให้บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 9 รักษาความปลอดภัย ขณะที่ “นายจิระวัฒน์” วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 3 เป็นหัวหน้างานมีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลความปลอดภัย แต่กระทำโดยประมาทไม่ปิดระบบดับเพลิงเดิม ไม่ควบคุมในที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 1, 2 , 3 , 9 จึงมีความประมาทร่วมด้วยทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตขึ้น ให้ลงโทษฐานร่วมกันกระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักสุด ให้จำคุกจำเลยที่ 1-3 คนละ 2 ปีและปรับคนละ  20,000 บาท  แต่เนื่องจากจำเลยที่ 1 -3  ไม่เคยต้องโทษมาก่อน อีกทั้งความประมาทที่เกิดขึ้นในการปิดระบบดับเพลิงเดิม ก็นอกเหนือจากความสามารถของจำเลย จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้คนละ 2 ปี

ส่วน บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 9 ให้ปรับ 20,000 บาท และจำเลยที่ 1-3,9 ร่วมกันชดใช้เงินญาติผู้ตายที่เป็นโจทก์ร่วมด้วย 5 คน รวม 2.1 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันเกิดเหตุ 13 มี.ค.59 ส่วนจำเลยที่ 4 - 8 และ 10 พิพากษายกฟ้อง  ต่อมาจำเลยที่ 1,2,3,9 ยื่นอุทธรณ์ และโจทก์ร่วมที่ 1 อุทธรณ์ในส่วนแพ่ง ขณะที่โจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ คดีในส่วนของจำเลยที่ 4-8,10 จึงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ยกฟ้อง

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ในส่วนของอุทธรณ์จำเลยที่ 1-2 ที่ว่าบจก.เมก้าฯ มีการแบ่งส่วนโครงสร้างการบริหาร จำเลยทั้สองเป็นกรรมการดูแลนโยบายการบริหาร ไม่ได้กระทำเหตุประมาทฯ ตามฟ้องนั้น ศาลเห็นว่าชั้นพิจารณาโจทก์ก็ไม่ได้มีพยานหลักฐานอื่นนำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 1-2 ร่วมกระทำการประมาทที่เป็นเหตุละเมิด ลำพังเพียงจำเลยที่ 1-2 มีชื่อเป็นกรรมการกระทำการแทนนิติบุคคล ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าได้กระทำการที่เป็นการประมาทนั้นด้วย  ส่วนวิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 3 และ บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 9 นั้นได้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลการติดตั้งระบบตามสัญญา ซึ่งต้องใช้ความระวังในการจัดดูแลสภาวะแวดล้อมการทำงานและบุคคลให้ได้รับความปลอดภัยอย่างเหมาะสมตาม พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย แบะสภาพแวดล้อมในกานทำงาน พ.ศ.2554  "ศาลอุทธรณ์" จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้อง  จำเลยที่ 1-2 ซึ่งเป็นผู้บริหาร บจก.เมก้าฯ  ส่วนวิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของ บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 3 และ บจก.เมก้าฯ จำเลยที่ 9 พิพากษาให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น  และที่โจทก์ร่วมอุทธณ์ประเด็นค่าเสียหายทางแพ่ง เพิ่มจำนวนเงินจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ไว้แล้ว 500,000 บาท นั้นฟังไม่ขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว ผู้บริหาร บจก.เมก้าฯ เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ