มาร์เซลโล เอบบราด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเม็กซิโก เปิดเผยว่าจำนวนผู้อพยพผิดกฎหมายที่ใช้เม็กซิโกเป็นเส้นทางผ่านไปยังสหรัฐฯ ลดลงถึง 56 เปอร์เซนต์ พร้อมแสดงความหวังว่าสหรัฐฯ จะไม่ทำตามคำขู่ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเก็บภาษีกับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกยังย้ำว่านโยบายของเม็กซิโกที่ส่งกำลังตำรวจติดอาวุธไปประจำการยังพรมแดนใกล้สหรัฐฯ ประสบผลสำเร็จด้วยดี
อย่างไรก็ตาม เม็กซิโกจะไม่ยอมรับสถานะการเป็นประเทศที่ 3 ซึ่งต้องทำหน้าที่รองรับผู้อพยพ แทนที่สหรัฐฯ โดยเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าจะสั่งเก็บภาษีกับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก หากไม่สามารถลดจำนวนผู้อพยพที่พยายามเดินทางเข้าสู่ได้ในระดับที่ชัดเจน
ขณะที่เมื่อเดือน มิ.ย. สหรัฐฯตกลงที่จะให้เวลาเม็กซิโก 90 วัน ในการลดจำนวนผู้อพยพ หลังจากเม็กซิโกตกลงที่จะส่งกำลังทหารหลายพันนายไปยังพื้นที่พรมแดนและและรับกลับผู้อพยพจากสหรัฐฯ