วงจรปิดของอาคาร 10 เคหะร่มเกล้า เผยให้เห็นผู้หญิงร่างผอม อุ้มวัตถุบางอย่างออกมาจากห้องพัก เมื่อเวลา 03.06 น. ของวันที่ 4 มี.ค.ก่อนที่ประมาณ 2 นาทีต่อมาจะกลับเข้ามาใหม่ ไม่ได้ถืออะไรในมือ จากนั้นประมาณ 10 นาที ก็ออกจากห้องพร้อมถุงพลาสติกเปล่า และกลับเข้าไปมือเปล่าอีกครั้ง ก่อนที่เวลา 03.31 น. จะวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันสวมรองเท้า และปั่นจักรยานหลบหนี เมื่อนับรวมกันแล้วพบว่าผู้ก่อเหตุเข้า-ออก ห้องพักถึง 2 ครั้งอย่างใจเย็นก่อนลงมือ และหลังก่อเหตุสำเร็จก็ปั่นจักรยานเลี้ยวซ้ายหลบหนีไปทางถนนเคหะร่มเกล้าซึ่งมีทางแยกสามารถไปออกได้หลายเส้นทาง
ตร.เร่งตามตัวมือสาดน้ำกรดใส่พี่สาว-หลาน2คน บาดเจ็บสาหัส
ทีมข่าวสอบถามผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลของอาคาร เปิดเผยว่า ครอบครัวผู้บาดเจ็บเพิ่งย้ายมาอยู่เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยย้ายมาจากโซนอื่นในเคหะร่มเกล้า ขณะที่เพื่อนบ้านเล่าว่าก่อนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงคนในห้องทะเลาะกันหรือพบเห็นอะไรผิดปกติ แต่ช่วงประมาณตีสามกว่าๆ ได้ยินเสียงเด็กร้องจึงรีบไปดู พบว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายมีสภาพบาดแผลจากการถูกน้ำกรดกัดรุนแรง
ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามพ่อพี่น้องสาวที่ก่อเหตุและบาดเจ็บครั้งนี้ เปิดเผยว่าลูกสาวคนโตและหลานชายวัย 10 ขวบอาการดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังมีบาดแผลตามใบหน้าและดวงตาอยู่ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือหลานสาววัย 6 ปี ที่ยังอยู่ในห้องไอซียู แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแต่น้ำกรดได้กัดลึกบริเวณดวงตาและอาจทำให้ตาบอด 1 ข้าง
ส่วนปมในการก่อเหตุ ตนเองก็ไม่ทราบเพราะไม่เคยเห็นพี่น้องทะเลาะกัน โดยตัวน้องสาวเป็นคนไม่ค่อยพูด มักจะหายไปทำงานไกล ๆ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าทำงานอะไรเพราะลูกสาวไม่ได้บอก และนาน ๆ ทีจะกลับมาบ้านครั้งหนึ่ง โดยครั้งล่าสุดกลับมาอยู่ด้วยได้ประมาณ 1 เดือนกว่าแล้ว แต่ไปๆ มา ๆ ไม่ได้ค้างตลอด ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบเรื่องจากภรรยาโทรศัพท์มาบอกก็ตกใจ ไม่คาดคิดว่าลูกสาวจะก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าน้องสาวอาจแค้นที่พี่สาวเคยใช้หม้อทุบหัวนั้น ตนเองคิดว่าไม่น่าใช่ เพราะเป็นเรื่องสมัยเด็กที่ผ่านมานานมากแล้ว จึงไม่แน่ใจว่าลูกสาวมีอาการทางจิตหรือไม่เพราะมองไม่เห็นสาเหตุอื่น อยากให้มามอบตัวเพราะเป็นห่วง หากตรวจพบว่ามีอาการจะได้รักษา และตัวพี่สาวเองก็บอกกับตนว่าให้อภัยน้องแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุ ไม่พบว่าเคยรักษาอาการทางจิต แต่หากควบคุมตัวได้อาจส่งตรวจเพิ่มเติมว่ามีอาการหรือไม่ เบื้องต้นพบว่าเคยมีประวัติคดีลักทรัพย์เมื่อประมาณปี 58 ส่วนปมเหตุครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากยังไม่ได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ซึ่งถือว่าเป็นพยานสำคัญ
พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ระบุอีกว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุแล้ว คาดว่าเตรียมจะออกหมายจับเร็วๆนี้
คุมตัวพลทหารฆ่าปาดคอหลาน 4 ขวบ ทำแผนฯ ญาติไม่ให้อภัย