เจ้าหน้าที่ คาด "แอมโมเนีย ไนเตรท"ชนวนเหตุระเบิดเลบานอน
ระเบิดเขย่าเมืองหลวงเลบานอน เสียชีวิตกว่า 70 คน
เหตุระเบิดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นบริเวณท่าเรือกลางกรุงเบรุต เมื่อช่วง 18.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยในช่วงแรกมีกลุ่มควันไฟลอยขึ้นจากจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเกิดระเบิดอย่างรุนแรง ส่งกลุ่มควันหนาทึบสีแดงส้มลอยปกคลุมทั่วบริเวณ โดยแรงระเบิดได้ก่อให้เกิดคลื่นช็อกเวฟที่ทำให้กระจกหน้าต่างแตกกระจาย พื้นดินสั่นสะเทือนคล้ายกับแผ่นดินไหว
ขณะนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 78 คน บาดเจ็บมากกว่า 4,000 คน และยังมีผู้สูญหายอีกหลายคน โดยขณะนี้โรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงเบรุตมีคนเจ็บเข้ามารักษาตัวเป็นจำนวนมาก จนเกินความสามารถในการดูแลผู้ป่วย
ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่ายังมีประชาชนจำนวนมากติดอยู่ตามซากอาคารหลายแห่งที่ถูกทำลายด้วยแรงระเบิด ขณะที่อาคารสำนักนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
หลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดี มิเชล อูน ของเลบานอนเรียกประชุมสภากลาโหมสูงสุด ซึ่งที่ประชุมได้แนะนำรัฐบาลให้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติในกรุงเบรุต และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยมอบหน้าที่ให้กองทัพดูแลความมั่นคงในเมืองหลวง
นอกจากนี้ สภากลาโหมสูงสุดของเลบานอนยังเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่สืบสวนเหตุดังกล่าว โดยกำหนดให้รายงานผลภายใน 5 วัน
ขณะที่ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุระเบิดเมื่อวานนี้ มีความเชื่อมโยงกับ แอมโมเนียไนเตรต ซึ่งเป็นส่วนผสมของปุ๋ย และการผลิตระเบิด น้ำหนักว่า 2,700 ตัน ที่เก็บไว้ในคลังสินค้าภายในท่าเรือจุดเกิดเหตุ นานถึง 6 ปี โดย นายกรัฐมนตรี ฮัสซัน ดิอับ ระบุว่า การเก็บวัตถุระเบิดไว้ในคลังสินค้า โดยไม่มีมาตรการดูแลความปลอดภัย และทำให้ชีวิตประชาชนอยู่ในอันตรายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกนำตัวมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่รายงานข่าวหลายชิ้นเบื้องต้นอ้างว่าเป็นเพราะเกิดเพลิงไหม้รุนแรงที่โกดังเก็บดอกไม้ไฟใกล้กับท่าเรือ
สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อ่อนไหวของเลบานอน ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ โดยในวันศุกร์นี้จะมีการพิพากษาคดีลอบสังหาร อดีตนายกรัฐมนตรี ราฟิก ฮารีรี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2005 ด้วย
สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้โพสต์แผนช่วยเหลือหรืออพยพคนไทยในเลบานอน หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ
ระดับ 1 สีเขียว โดยให้เตรียมความพร้อมของของเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ระดับ 2 สีเหลือง เตรียมแผนอพยพคนไทยออกจากพื้นที่และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
ระดับ 3 สีส้ม ให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ในประเทศ เดินทางออกนอกพื้นที่ประสบเหตุให้มากที่สุด โดยเฉพาะเด็ก สตรี และคนชรา
ระดับ 4 สีแดง อพยพคนไทยออกนอกพื้นที่ หรือไปประเทศที่สามเป็นการชั่วคราวหรืออพยพกลับประเทศไทย