ผู้เชี่ยวชาญเด็ก ชี้ปัญหา รร.สารสาสน์ สะท้อนการทำงาน ก.ศึกษาธิการ
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2563 นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าว PPTV ในประเด็นการปฏิรูประบบการศึกษาไทย โดยได้หยิบยกปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนสารสาสน์ ว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมายาวนานต่อเนื่อง และกระทรวงศึกษาธิการรับรู้มาโดยตลอด ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้บังคับใช้กฎระเบียบอย่างเข้มงวดพอ พร้อมทั้งยอมรับว่าโรงเรียนเอกชนขึ้นตรงกับศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งอาจมีบุคลากรที่ไม่พร้อมเท่าที่ควร ขณะเดียวกันสำนักงานการศึกษาเอกชน ก็ไม่ได้เชื่อมโยงกับสถานศึกษา เหมือนกับที่โรงเรียนของรัฐบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
นายณัฎฐพล กล่าวต่อว่ากระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างร่างแผนปฏิรูปการศึกษา หนึ่งในประเด็นที่จะผลักดัน คือการคัดครูสอน โดยเฉพาะครูพี่เลี้ยงเด็ก ที่ไม่ใช่จะพิจารณาจากใบประกอบวิชาชีพ หรือความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีผลการทดสอบสภาวะอารมณ์ของครูด้วย
ส่วนเรื่องใบประกอบวิชาชีพครู ที่มีประเด็นเรื่องการผ่อนผันโดยมีอายุ 8 ปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการย้ำว่า หลังจากนี้จะพิจารณาลดการผ่อนผันจาก 8 ปี เป็น 4 ปี
ปธ.เครือสารสาสน์ ยันพร้อมแก้ปัญหาเต็มที่ ลั่นใบวิชาชีพ ไม่ได้กำหนดคุณภาพครู
ด้าน นางมณฑา แสงชัน ผู้อำนวยการ สำนักทะเบียนและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ คุรุสภา เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ที่เรียนจบตรงตามวุฒิ สามารถยื่นขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้เลย แต่สำหรับคนที่จบการศึกษาวุฒิอื่นนอกเหนือจากวิชาชีพครูต้องเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู หรือ ป.บัณฑิต อย่างน้อย 1 ปี และต้องผ่านการทดสอบประเมิน 9 มาตรฐานวิชาชีพครู จึงจะสามารถขอใบประกอบวิชาชีพครูได้ และในปี 2564 คุรุสภาจะเปลี่ยนระบบใหม่โดยจัดสอบใบประกอบวิชาชีพ 5 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยี วิชาความเป็นครู และวิชาเอก ซึ่งคะแนนสอบแต่ละวิชาจะต้องผ่านร้อยละ 60 แต่หากวิชาใดไม่ผ่านการทดสอบสามารถสอบใหม่ในปีถัดไปได้ และสามารถเก็บคะแนนไว้ได้ 3 ปี ส่วนครูต่างชาติจะจัดสอบเหมือนกันทุกวิชา ยกเว้นวิชาภาษาไทย