ย้อนกลับไปในปี 2010 ภูเขาไฟเอยาฟ-จาลา-โยกุลในประเทศไอซ์แลนด์ได้เกิดระเบิดขึ้น ทั้งๆ ที่นิ่งสงบมานานเกือบ 2 ศตวรรษ เหตุภูเขาไฟระเบิดในครั้งนั้นทำให้การสัญจรทางอากาศทางตอนเหนือของทวีปยุโรปเป็นอัมพาต ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารนับล้านคน
แต่รัฐบาลไอซ์แลนด์ก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างชาญฉลาด โดยหยิบเอาภูเขาไฟที่มีอยู่จำนวนมาก บ่อน้ำพุร้อน และภูมิประเทศที่เกิดจากลาวาที่แข็งตัว มาเป็นจุดขายจนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมายังชมความงามของดินแดนที่ไม่มีที่ใดเปรียบเทียบได้
ปัจจุบัน หน่วยงานป้องกันสาธารณภัยของไอซ์แลนด์ มีแผนรับมือภัยพิบัติจากภูเขาไฟที่รัดกุม เพื่อให้ประชาชนชาวไอซ์แลนด์สามารถอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปรับตัวกับวิถีชีวิตที่ต้องพร้อมอพยพอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้การจัดระเบียบและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะแม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีจะล้ำสมัยแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถที่จะคำนวณการระเบิดของภูเขาไฟล่วงหน้าได้
ล่าสุด หน่วยงานป้องกันสาธารณภัยของไอซ์แลนด์ ก็ได้แก้ปัญหาโดยติดตั้งระบบส่งข้อความเอสเอ็มเอสผ่านโทรศัพท์มือถือ เตือนนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดเหตุ ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันติดตามกิจกรรมของภูเขาไฟทั่วประเทศที่ยังคุกกรุ่นอยู่ 32 แห่ง และมีแผนรองรับที่สามารถปฏิบัติได้ทันทีเมื่อจำเป็น