ย้อนตำนาน “บั้งไฟพญานาค” ความรักจาก “นาคี” ต่อมนุษย์และพุทธศาสนา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แฟนละครน้ำตาริน ส่งท้ายความรักอันมั่นคง ระหว่าง “เจ้าแม่นาคี” และชายคนรัก ย้อนตำนาน “บั้งไฟพญานาค” ความรักจากพญานาคต่อมนุษย์และพุทธศาสนา

ทำเอาแฟนละครน้ำตาซึมและอินกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง สำหรับตอนอวสานของละคร “นาคี” บทละครที่ประพันธ์ถึงความรักอันมั่นคง ระหว่างนาคเทวี หรือ “เจ้าแม่นาคี” ที่มีต่อมนุษย์ ซึ่งแม้ในท้ายที่สุดพญานาคีจะไม่สามารถ บำเพ็ญเพียรได้ครอบ 1,000 ปี เพื่อกลายร่างเป็นมนุษย์และครองคู่กับคนรัก ได้ดั่งใจปรารถนาแต่ความรักที่ทั้งสองมีให้ต่อกัน ก็ยังคงยั่งยืนตราบนานเท่านาน โดยในบทละครเจ้าปู่อนุญาตให้เจ้าแม่นาคี แสดงความรักต่อ แม่ทัพไชยสิงห์ ได้ปีละ 1 ครั้ง โดยการปล่อยลูกไฟขึ้นเหนือลำน้ำโขง หรือที่เราเรียกว่าบั้งไฟพญานาคนั่นเอง..

สำหรับคนไทยโดยเฉพาะชาวบ้านริมน้ำโขง มีความเชื่อเกี่ยวกับตำนานพญานาคมาตั้งแต่อดีต โดยในทางพระพุทธศาสนามีความเชื่อว่า “บั้งไฟพญานาค” ที่ขึ้นเหนือลำน้ำโขง ในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เกิดจากความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ของพญานาคที่มีต่อพระพุทธเจ้า ซึ่งตามปกติแล้วพญานาคจะมีนิสัยดุร้าย แต่พอพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์ ก็เกิดความเลื่อมใสในพุทธศาสนา เลิกนิสัยดุร้ายและคิดจะออกบวช แต่ติดที่เป็นสัตว์ไม่สามารถบวชได้ จึงปวารณาตนเป็นพุทธมามกะ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพระมารดา ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จนครบ 1 พรรษา และเสด็จกลับโลกมนุษย์ในวันขึ้น15 ค่ำ เดือน 11 เมื่อความรู้ถึงพญานาค จึงได้ปล่อยบั้งไฟเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า

ขณะเดียวกันตามตำนาน “วัดหินหมากเป้ง” ซึ่งตามความเชื่อที่คนเฒ่าคนแก่บอกต่อกันมา เชื่อว่าเบื้องล่างแผ่นดินของจังหวัดหนองคายเป็นเมืองบาดาลภายใต้หินหมากเป้งแห่งนี้ ลึกลงไปจะเป็นถ้ำที่พักของเหล่าพญานาคซึ่งเป็นโพลงถ้ำขนาดใหญ่โตมหึมา เป็นโพลงถ้ำที่ทอดทะลุถึงวัดพระพุทธบาทดอนแก้ว ใกล้วัดหินหมากเป้งอันเป็นรอยพระพุทธบาทองค์จริงอยู่ที่นั้นและโพลงถ้ำยังทอดทะลุไปโดยตลอดทั่วถึงกันทุกหนแห่งของอาณาบริเวณของเมืองพญานาค ในวันดีคืนดีโดยเฉพาะวันพระเหล่าพญานาคที่คอยพิทักษ์รักษาวัดหินหมากเป้ง ก็จะพากันขึ้นมาเฝ้าฟังอรรถรสบทธรรมของ หลวงปู่เทศก์ เทศก์รังสี เป็นศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานของพระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโร และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งท่านทั้งสองเป็นพระอาจารย์ใหญ่แห่งพระธุดงค์กรรมฐาน ซึ่งคนที่นี่เชื่อว่าเป็นดวงไฟที่พญานาคจุดขึ้นมา เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดหินหมากเป้งแห่งนี้นั่นเอง

ทั้งนี้ เทศกาล “บั้งไฟพญานาค” จะมีประชาชนทั่วสารทิศ เดินทางมายังจังหวัดหนองคาย เพื่อสัมผัสกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลูกไฟสีแดงอมชมพู ไม่มีเสียง ไม่มีควัน และไม่มีกลิ่น พวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ลักษณะเหมือนดอกไม้ไฟหรือพลุ ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงปีละครั้ง ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 พร้อมกันนี้หน่วยงานต่างๆ ได้จัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจเพิ่มความคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นถนนอาหาร การประกวดกระทงยักษ์ การแข่งขันเรือยาว การแสดงแสง-เสียงเปิดตำนาน “บั้งไฟพญานาค” การประกวดปราสาทผึ้งแบบดั้งเดิม การลอยเรือไฟบูชาพญานาค การลอยกระทงสาย และการตักบาตรเทโวโรหนะ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังมีการพิสูจน์ปรากฎการณ์ "บั้งไฟพญานาค" จากหลายฝ่ายว่าไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ รวมทั้งกรณีการเกิดรอยคล้ายสัตว์เลื่อยคลาน บริเวณรถยนต์และพื้นคอนกรีตซึ่งมักปรากฎเป็นข่าวบ่อยครั้ง ซึ่งล่าสุดในสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิป จากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพแมลงที่ตกไปบนหลังคารถยนต์ และทำให้เกิดรอยเป็นทางยาวคล้ายกับที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรอยพญานาค โดยคลิปดังกล่าวช่วยคลายความสงสัยต่อกรณีดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ( คลิปเด็ดไขปมคาใจ “รอยพญานาค” ที่แท้เกิดจากแมลงตัวจิ๋ว )

 

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก www.payanaka.com และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เผยพลังแห่งพืชพันธุ์ “ว่านดอกทอง” ตำนานแห่งความรัญจวน !

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ