ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ไม่น้อย เมื่อเพจเฟซบุ๊ก "วัดเขาอิติสุคโต หัวหิน" ได้โพสต์ข้อความ "หลวงพ่อปรีชา" เจ้าอาวาสวัดประกาศลาสิกขาบท เพราะผิดหวัง ที่ "นางงามคนหนึ่ง" ที่ได้มีการนำเครื่องรางของขลังที่เรียกว่า "แสงสีทอง" ไปและไม่นำมาคืนตามที่สัญญาไว้นั่นเอง
ทั้งนี้ ข้อความบางช่วงบางตอนที่โพสต์ ระบุว่า “บวชมา 33 ปี มีตำนานเล่าว่า โยมแม่เป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย หมอบอกว่าอยู่อีก 6 เดือน บวชมาโดยไม่ได้ตั้งใจจะอยู่นานแบบนี้ ได้ไปบนหลวงพ่อขาว ถ้าโยมแม่ไม่ตายภายใน 6 เดือน จะบวชให้ 30 พรรษา และอธิฐานว่าจะอยู่เท่ากับรัชกาลที่ 9 ถ้าสิ้นพระชนม์เมื่อใดถือว่าหมดสัญญา อยู่มาเกิน 3 ปีแล้ว 33 พรรษา ลาภยศ สรรเสริญ ชื่อเสียง ไม่ยึดติด"
"อย่ามายึดติดบุคคล ขอให้ช่วยวัดเขาอิติสุคโต เราก็จะไม่ไปไหน ก็จะอยู่ช่วยทะนุบำรุงวัดเขาอิติสุคโตจนชีวิตหาไม่ ส่วนเครื่องรางของขลังที่ออกไปนั้น ไม่ต้องกลัวเสื่อม ให้เก็บเอาไว้ให้ดี จะมีราคาควรเมืองในวันข้างหน้า และอยากบอกว่าคนที่เราให้แสงสีทองไปเพื่อประกวดนางงามและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย จึงให้ไป แต่ไม่ทำตามสัญญา ไม่ยอมเอาแสงสีทองที่หลวงพ่อมอบให้มาคืน ไม่รักษาสัจจะวาจา แสงสีทองนั้นปฏิบัติได้มา ไม่ยอมเอามาคืนตามสัญญา เราอยู่ไม่ได้แล้ว เราถือสัจจะวาจายิ่งกว่าชีวิต จึงขอปิดตำนานเจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโต"
วงในเผยเจ้าอาวาสวัดดังลาสิกขาบท 1 เดือนที่แล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดเขาอิติสุคโต พบว่าบรรยากาศที่วัดเขาอิติสุคโตในวันนี้ เป็นไปด้วยความเงียบสงบ มีพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดทำกิจสงฆ์ตามปกติ เมื่อสอบถามหาตัวหลวงพ่อปรีชา ปรากฎว่าไม่มีใครให้ข้อมูลว่าหลวงพ่อปรีชาอยู่ที่ใด และสึกด้วยเหตุผลอะไร
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงของผู้ปกครองฝ่ายสงฆ์ คือ พระครูวิจิตธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอหัวหิน เพื่อสอบถามข้อมูล ทราบจากพระลูกวัดว่าท่านเจ้าคณะอำเภอไปทำธุระที่สำนักพุทธศาสนา และจะเดินทางกลับมาวัดในวันที่ 19 มีนาคมนี้ เบื้องต้นเจ้าคณะอำเภอหัวหินทราบเรื่องการลาสิกกขาบทของเจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโตแล้ว เนื่องจากหลวงพ่อปรีชาได้เดินทางมากราบลาสิกขาบท และกลับไปลาสิกขาบทที่วัดอิติสุตโต ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของทางสงฆ์
โดยข่าววงในระบุด้วยว่า เจ้าอาวาสวัดเขาอิติสุคโต ไม่ได้เพิ่งลาลิกขาบท ตามวันเวลาที่ประกาศในแฟนเพจ แต่พบว่าได้ลาลิกขาบทไปได้กว่า 1 เดือนแล้ว โดยไม่ระบุแน่ชัดว่ายังพักอาศัยอยู่ใน อ.หัวหิน หรือไม่ แต่มีหลายกระแสข่าวเกี่ยวกับการลาลิกขาของหลวงพ่อวัดเขาอิติสุคโตที่เชื่อว่าจะเป็นสาเหตุที่แท้จริง อาจเกี่ยวกับกรณีเรื่องการถูกตำหนิจากพระผู้ใหญ่เรื่องไก่ชน และ การชกมวย ซึ่งเป็นกีฬาที่หลวงพ่อชื่อชอบ แต่ไม่เหมาะสมกับสมณเพศที่หลวงพ่อปรีชาถือครองอยู่