ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎว่า นายอาร์นี ราสยิด บาสเวดาน อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการ ได้คะแนนไป 58% ทิ้งห่างนาย “บาซูกิ ยาฮาจา เปอร์นามา” หรือ “อาฮก” ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาชาวคริสต์เชื้อสายจีน ที่ได้คะแนนไป 42% โดยก่อนหน้านี้ ในการเลือกตั้งรอบแรก เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา นาย “อาฮก” เฉือนชนะไปด้วยคะแนนเสียง 43% ส่วนนาย “บาสเวดาน” ได้ไป 40% ซึ่งหมายความว่า ไม่มีใครได้คะแนนเกินร้อยละ 50 จึงต้องมาตัดสินชิงดำกันอีกครั้งในวันนี้
ทั้งนี้ การที่นาย “บาสเวดาน” พลิกกลับขึ้นมามีคะแนนนำ และมีคะแนนทิ้งห่างนาย “อาฮก” ในรอบนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับชาวอินโดนีเซีย โดยชาวเน็ตอินโดนีเซียบอกว่า สำหรับพวกเขาแล้ว ผลการลงคะแนนรอบนี้ น่าตกใจพอๆกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หรือการที่สหราชอาณาจักรลงประชามติแยกตัวจากอียูเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งของอินโดนีเซียจะประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ด้านสื่อมวลชนในอินโดนีเซียต่างรายงานไปในทำนองเดียวกันว่า นี่คือการเลือกตั้งที่สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกของคนในประเทศมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เนื่องจากนาย “อาฮก” ซึ่งเป็นชาวคริสต์ เชื้อสายจีน กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นพระคัมภีร์ “อัล-กุรอ่าน” ในระหว่างการหาเสียงครั้งแรก ทำให้ชาวมุสลิม ซึ่งถือเป็นประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไม่พอใจ และหันไปเทคะแนนให้กับนาย “บาสเวดาน” ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม
ภายหลังทราบผลคะแนน “ควิกเคานต์” นาย “บาสเวดาน” ก็ได้ประกาศชัยชนะ พร้อมกับกล่าวว่าตนจะมุ่งปกป้องความหลากหลายและต่อสู้เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาวกรุงจาการ์ตา รวมถึงส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคม
ขณะที่นาย “อาฮก” ได้ออกมายอมรับความพ่ายแพ้พ และแสดงความยินดีกับนาย “บาสเวดาน” โดยเรียกร้องให้ชาวอินโดนีเซียทุกคนลืมความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกันในช่วงหาเสียง เพราะทุกคนต่างต้องการสิ่งเดียวกัน คือต้องการให้จาการ์ตาที่เป็นบ้านของทุกคน ดีกว่าที่เป็นอยู่