ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ประกาศจะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ก็ช่วยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย หลังจากเมื่อวานพุ่งทะลุ 1,700 จุดแล้ว วันนี้ตลาดหุ้นไทย เปิดตลาด ยังพุ่งขึ้นอีกกว่า 9 จุด ซึ่งส่วนหนึ่งยังได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกทุบสถิติสูงสุดอีกครั้ง
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การประกาศเดือนที่จะมีการเลือกตั้งอย่างชัดเจน ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น เพราะความเสี่ยงด้านการเมืองลดลง และการที่รัฐบาลทำได้ตามโรดแมพที่วางไว้ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลที่ผ่านมา บริหารจัดการได้ดี จึงเป็นไปตามแผน
ทั้งนี้ การเลือกตั้งถือเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจลงทุน ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องการลงทุน เช่น กฎหมายการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจ ภาคตะวันออก (อีอีซี) และนโยบายส่งเสริมการลงทุนอื่นๆ แต่การที่มีการเลือกตั้งได้ตามแผนก็ทำให้ความเสี่ยงด้านการลงทุนลดลง และยังปลุกเศรษฐกิจในประเทศให้คึกคัก
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า โรดแมพ การเลือกตั้งที่รัฐบาลประกาศถือเป็นข่าวดี ทำให้ทิศทางเศรษฐกิจเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ภาคเอกชนเป็นกังวลคือ "โครงการระยะยาว"ที่รัฐบาลได้เริ่มปูพื้นการพัฒนาเศรษฐกิจไว้ มีหลายโครงการที่เป็นประโยชน์กับประเทศ เช่น โครงการ อีอีซี รวมถึงการวางแผนยุทธศาสตร์ชาติใน 20 ปีข้างหน้า ดังนั้น ภาครัฐควรประกาศออกเป็นกฎหมาย ที่จะผลักดันให้รัฐบาลชุดใหม่มาสานต่อนโยบาย
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนที่ต่างชาติมีความเชื่อมั่น ส่วนตลาดต่างชาติที่ยังกังวลต่อนโยบายการเมือง และอ่อนไหวต่อการเป็นประชาธิปไตย เช่น ยุโรป สหรัฐฯ เริ่มมั่นใจและผ่อนคลายมากขึ้น
ส่วนภาคประชาชน ส่วนใหญ่ก็บอกว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่มีการประกาศช่วงเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน ซึ่งหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังบอกด้วยว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ตามที่ภาคเอกชนร้องขอ ซึ่งก่อนหน้านี้ ภาคเอกชนก็ออกมาขอให้มีโครงการช็อปช่วยชาติ หักภาษี 15,000 บาท เหมือนกับปีที่ผ่านมา