ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12 ต.ค.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค3 ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจโทดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวจีนไต้หวัน จำนวน 3 คน ขณะกำลังกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ในห้างสรรพสินค้าพาลิโอ ที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
จากนั้นได้ขยายผลเข้าจับกุมเพิ่มอีก 1 คน ที่ถนนทางเข้าเขตอุตสาหกรรมสุรนารี ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ เช่น บัตรกดเงินอิเลคทรอนิกส์ (ATM) จำนวน 13 ใบ ธนบัตรไทย จำนวน 459,000 บาท สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ และสลิปโอนเงินผ่านธนาคารๆ อีกรวม 15 รายการ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง
ทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหาเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีพฤติกรรมร่วมมือกับคนไทย ใช้โทรศัพท์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงเชื่อมต่อกับหมายเลขหน่วยงานต่างๆ ในไทย สามารถโชว์เบอร์ให้เห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานเหล่านั้นจริง เช่น ปปง.,ปปช.ปปส.,ดีเอสไอ,ธนาคารต่างๆ รวมถึงไปรษณีย์ไทย ก่อนให้คนไทยที่อยู่ในประเทศไต้หวัน ข่มขู่ให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีสิ่งผิดกฎหมายหรือได้กระทำผิดกฎหมาย จนเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินให้
โดยก่อนหน้านั้นแก๊งนี้จะไปว่าจ้างให้คนไทยในจังหวัดต่างๆ เปิดบัญชีธนาคารไว้ ให้ค่าจ้างรายละ 8,000 บาท จากนั้นจะให้ชาวจีนไต้หวันรับจ้างเดินทางเข้าประเทศไทยในนามนักท่องเที่ยว ตระเวนโอนเงินผ่านบัญชีจากตู้เอทีเอ็มกลับไปยังไต้หวัน จากการตรวจสอบพบว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่าเงินที่ถูกโอนผ่านบัญชีที่หลอกจากเหยื่อในประเทศไทยมีมากกว่า 10 ล้านบาท