เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองเทมเป (Tempe) ใน รัฐแอริโซนา โดยผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงมีชื่อว่า อีเลน เฮอซเบิร์ก ( Elaine Herzberg ) วัย 49 ปี ซึ่งขณะที่เธอกำลังจูงจักรยานข้ามถนนปรากฎว่าได้ถูกรถยนต์อเนกประสงค์แบบไร้คนขับของบริษัท อูเบอร์ พุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยจากการตรวจสอบของตำรวจเมืองแทมเป พบว่ารถยนต์ไร้คนขับที่ก่อเหตุชนผู้หญิงคนดังกล่าวมีผู้ที่ทำหน้าที่คอยควบคุมการทำงานอยู่ภายในตัวรถด้วย ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นครั้งแรกในโลกที่มีคนเดินถนนเสียชีวิตจากรถไร้คนขับ ขณะที่ บริษัท อูเบอร์ ประกาศระงับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับทั่วทั้งสหรัฐฯ และ แคนาดา จนกว่าการตรวจสอบอุบัติเหตุดังกล่าวจะเสร็จสิ้น พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม นายกเทศมนตรีเมืองแทมเป ยืนยันว่า จะสนับสนุนให้อูเบอร์นำรถไร้คนขับมาทดสอบในพื้นที่ต่อไป เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ พร้อมชื่นชมอูเบอร์ว่ามีความรับผิดชอบที่ตัดสินใจหยุดการทดสอบไปก่อน ส่วนกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้บริโภคในสหรัฐฯ เรียกร้องให้ระงับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนนถนนหลวงและออกมาตรการกำกับดูแลรถยนต์ไร้คนขับที่จริงจัง ซึ่งจนถึงขณะนี้มีมากกว่า 10 รัฐในสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้รถไร้คนขับออกมาวิ่งบนนถนนได้ แต่ต้องมีคนควบคุมการทำงานอยู่ในตัวรถ หรือ จากระยะไกลด้วย
นอกจากนี้ยังมีเสียงวิจารณ์ว่ารถยนต์ไร้คนขับที่หลายบริษัทกำลังพัฒนาขึ้นยังไม่สามารถตอบสนองสถานการณ์คับขันบนถนนได้ดีเท่ากับมนุษย์ สำหรับโครงการทดสอบรถไร้คนขับของอูเบอร์ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2016 ในหลายเมืองใหญ่ ของสหรัฐฯ และแคนาดา ทั้ง โตโรอนโต ซานฟรานซิสโก พิตส์เบิร์ก และ ฟินิกซ์ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเมืองแทมเปที่เป็นจุดเกิดเหตุ แต่ในปี 2017 โครงการดังกล่าวเคยถูกระงับมาแล้วครั้งหนึ่งเนื่องจาก รถที่ใช้ในการทดสอบวิ่งตกลงข้างทาง