รองอธิบดีกรมป่าไม้ คณะทำงานชุดพยัคฆ์ไพร และเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง เข้าตรวจค้น รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในเขตป่าสงวนเขาโปกหล่น ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นหนึ่งใน รีสอร์ตที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีเมื่อปีที่ผ่านมา ในข้อบุกรุกป่าสงวน และไม่ได้อยู่ในแปลงที่ดิน รอส. ที่น่าตกใจระหว่างเข้าตรวจสอบวันนี้พบว่าผู้ประกอบการ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ยังคงดำเนินการก่อสร้างอาคาร 2 หลัง จนแล้วสร็จสมบูรณ์ รวมถึงมีการต่อเติม ขยายห้องพักจำนวนเพิ่มขึ้น และขยายแนวเขตติดตั้งเสาไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า พร้อมเปิดให้บริการ
รีสอร์ตหลายแห่งที่ เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และ เจ้าหน้าที่ทหาร เคยเข้าชี้แจงให้หยุดการก่อสร้าง และรื้อถอน เพราะเป็นพื้นที่ป่าสงวน แต่จากการบุกตรวจค้นครั้งล่าสุด พบว่า รีสอร์ตเหล่านี้ ยังเปิดให้บริการและ ขยายอาคาร เจ้าหน้าที่บอกว่านี่คือหลักฐานสำคัญที่สามารถเอาผิดผู้ประกอบการรีสอร์ตได้
เจ้าหน้าที่ มุ่งหน้าตรวจค้นรีสอร์ต แห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรก ประมาณ 200เมตร พบว่ามีอาคารรีสอร์ต ถูกต่อเติมเพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพบบ้านพักหนึ่งหลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง แต่วันนี้พบกลับพร้อมเปิดให้บริการ นายชีวะภาพ ชีวะธรรมหัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพรกรมป่าไม้ เชื่อว่านี่คือหลักฐานสำคัญที่จะเอาผิดผู้ประกอบการรีสอร์ตได้ ขณะที่การปฏิบัติการตรวจค้นครั้งนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานอย่างรัดกุม ทั้งการบันทึกภาพและเอกสารแจ้งเตือนไปยังรีสอร์ตที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนทั้งหมด เพื่อนำไปประกอบสำนวนต่อสู้คดีอย่างรัดกุม ป้องกันการถูกยกฟ้อง
ข้อมูลจากชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ระบุว่า มีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ ที่เข้าข่ายบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนอำเภอเขาค้อ ทั้งหมด 649 แห่ง ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะปฎิบัติการเข้าตรวจค้น ร้องทุกข์กล่าวโทษ รีสอร์ต 135 แห่งนอกแปลงที่ดินราษฎรอาสาสมัครก่อน รองอธิบดีกรมป่าไม้ ยืนยันเจ้าหน้าที่มีการสร้างความเข้าใจ และชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการปฏิบัติการจะทำลักษณะจากเบาไปหามาตรการที่เข้มแข็งขึ้นเรี่อยๆ เชื่อว่าเจ้าของรีสอร์ททั้ง 135 ราย จะถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมภายใต้ความยุติธรรม
กันตินันท์ คลังสมบัติ ภ่ายภาพ
อภิสิทธิ์ ดุจดา พีพีทีวี รายงาน