นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงเปิดภาคเรียน แต่จากข้อมูลพบว่ากระเป๋านักเรียนของเด็กชั้นประถมศึกษา ปัจจุบันมีน้ำหนักถึง 4-6 กิโลกรัม ซึ่งเด็กชั้นประถมศึกษา ไม่ควรถือกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกินกว่าร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว เช่น ถ้าเด็กมีน้ำหนัก 30 กิโลกรัม น้ำหนักกระเป๋าที่เด็กสามารถถือได้ต้องไม่เกิน 3 กิโลกรัม โดยการถือกระเป๋าที่หนักและนานอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อโครงสร้างร่างกายและส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็ก
เช่นเดียวกับ นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระบุว่าเด็กวัยอนุบาลหรือประถมต้นยังมีการทรงตัวที่ไม่ดีนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงการเจริญเติบโตและพัฒนาการการทรงตัว อีกทั้งกำลังแขนขายังไม่แข็งแรง การแบกกระเป๋าใบใหญ่และน้ำหนักมาก อาจทำให้เด็กล้มง่าย เดินลำบากมากขึ้น เกิดการบาดเจ็บทั้งจากการล้มและกล้ามเนื้อที่ใช้ในการแบกกระเป๋า
สำหรับกระเป๋านักเรียน ที่ใช้อาจแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือแบกกระเป๋าโดยใช้มือถือ และแบกกระเป๋าโดยแขวนหลัง ซึ่งแบบมือถือไม่เหมาะกับการแบกเป็นเวลานาน อาจเกิดการบาดเจ็บ และเสียสมดุลร่างกายได้มากกว่าแบบแขวนหลัง หากกระเป๋ามีน้ำหนักมากแนะนำให้ใช้กระเป๋าลาก ส่วนกระเป๋าถือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้แนะนำว่าไม่ควรหนักจนเกินไป และไม่ควรถือเป็นเวลานานๆ