รีวิว Mitsubishi Xpander ปรับใหญ่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่อยากเติมระบบ Safety
มิตซูบิชิ จะรักษาแชมป์ในตลาดเอ็มพีวี 7 ที่นั่งไว้ได้หรือไม่ กับการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ที่มีคู่แข่งรายใหญ่เข้ามาท้าชิง
ต้องยอมรับว่าการเปิดตัวของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ (Mitsubishi Xpander) ที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในเดือน ส.ค. ปี 2561 ก็สร้างกระแสความคึกคักให้กับรถยนต์ในกลุ่ม รถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง (เอ็มพีวี) ได้อย่างมาก เนื่องด้วยหน้าตาที่แปลกใหม่มีความ ‘อวกาศ-ล้ำสมัย’ ไม่ใช่หน้าตาที่คุ้นเคยกันสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ที่หันมองในตลาด (ในเวลานั้น) มีแต่แบบ บ้านๆ เชยๆ เน้นการใช้งาน
เปิดราคา Mitsubishi Xpander เริ่ม 7.99-8.95 แสนบาท
มิตซูบิชิ เปิดแผนธุรกิจในไทย รถยนต์นั่งทุกรุ่นจะมีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
รีวิว Toyota Veloz แพงกว่าหลักพันแต่ได้ออปชั่นคุ้ม
นั่นจึงทำให้ Mitsubishi Xpander สามารถครองเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ได้นับตั้งแต่การเปิดตัว และ มิตซูบิชิ ยังระบุอีกว่า การเปิดตัวของ เอ็กซ์แพนเดอร์ ในเวลานั้น ยังช่วยขยายตลาดรถยนต์ในกลุ่ม เอ็มพีวี ให้เติบโตขึ้นกว่าเท่าตัว โดยกระทั่งถึงปัจจุบัน มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ทุกรุ่นมียอดจำหน่ายสะสมรวมกันแล้วมากกว่า 44,000 คัน
จนกระทั่งคู่แข่งรายใหญ่อย่าง โตโยต้า เปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มเดียวกันลงสู่ตลาดในช่วงเดือน ก.พ. 2565 ทำให้ มิตซูบิชิ ในฐานะผู้นำตลาดอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ จึงแนะนำ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ รุ่นปี 2022 ในช่วงงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เพื่อเตะสกัดคู่เนื่องรายใหญ่ สาเหตุที่ต้องกล่าวเช่นนั้น เป็นเพราะการเปิดตัว มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ในงานดังกล่าว มีเพียงการแจ้งสเปคเพียงอย่างเดียวพร้อมนำรถยนต์รุ่นดังกล่าวมาโชว์ภายในงานแต่ไม่มีการประกาศราคาแต่อย่างใด เนื่องจาก เอ็กซ์แพนเดอร์ รุ่นเดิมยังมีจำหน่ายอยู่
ยลโฉม Mercedes EQS SUV รถเอสยูวีไฟฟ้าชาร์จ 1 ครั้งวิ่งไกลกว่า 600 กม.
แต่เอาล่ะ ถึงวันนี้ Mitsubishi Xpander ก็ได้เปิดตัวพร้อมเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 7.99-8.95 แสนบาท พร้อมกับระบุว่าปัจจุบัน เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่มียอดจองรวมแล้วมากกว่า 2,500 คัน ซึ่งจะสามารถเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ สิ้นเดือน เม.ย. นี้เป็นต้นไป
PPTV Online ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์ Mitsubishi Xpander ใหม่ รุ่นปี 2022 บนเส้นทาง กรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ระยะทางไป-กลับราว 400 กม. ซึ่งต้องบอกว่ารถยนต์รุ่นดังกล่าวมีการปรับเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก
หลัก ๆ ในการเปลี่ยนแปลงสำคัญนอกเหนือจากรูปลักษณ์หน้าตาแล้ว คือ การปรับเปลี่ยนด้านสมรรถนะที่ครั้งนี้ Mitsubishi Xpander ใหม่ ใส่เอาเกียร์อัตโนมัติ Eco-dynamic CVT ซึ่งจากเดิมใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้อัตราการตอบสนองของดีขึ้น โดย มิตซูบิชิ เคลมไว้ว่า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. จากการเปลี่ยนเกียร์ชุดใหม่นี้จะดีขึ้นประมาณ 2 วินาที ซึ่งลองจับเวลาคร่าว ๆ ขณะที่ไปลองก็ได้ประมาณนั้นจริง ๆ
นอกจากนั้น ในแง่ของการทำงานของเกียร์ CVT ใหม่ทำได้นุ่มนวลไหลลื่นต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นจากการใช้รอบความเร็วที่ต่ำลง อีกมุมดีหนึ่งของเกียร์ที่เปลี่ยนใหม่คือเวลาเกียร์ทำงานในรอบความเร็วปกติเสียงเบาลง แต่ถ้าถามว่าเวลาเรียกความเร็วก็ยังมีเสียงเกียร์ทำงานดังอยู่เป็นปกติ
ขณะเดียวกัน Mitsubishi Xpander ใหม่ ได้ปรับจูนช่วงล่างโดยปรับขนาดของโช๊คอัพด้านหลังให้ใหญ่ขึ้นเทียบเท่ากับขนาดของโช๊คอัพใน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต แต่กระนั้นไม่ได้มีการปรับค่า K ของคอยล์สปริงแต่อย่างใด โดยที่ด้านหน้ามีการติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช้คเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง ซึ่งจากที่ได้ลองสัมผัสในสภาพการขับขี่จริงในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ‘ความนุ่มนวล’ ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าและคงจะไม่เกินไปที่จะกล่าวว่า ‘นุ่มที่สุดในคลาส’ เหมาะกับการโดยสารและเดินทางสำหรับครอบครัว แต่ต้องแลกมากับการขับขี่ที่สนุกสนานลดลงไปบ้าง
ทั้งนี้ Mitsubishi Xpander ใหม่ มีความสูงจากพื้นถึงตัวรถ (Ground Clearlance) สูงขึ้น 15 มม. ส่งผลให้ความสูงของรถยนต์คันนี้อยู่ที่ 220 มม. ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับขนาดล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่เป็นขนาด 17 นิ้ว จากรุ่นก่อนหน้าอยู่ที่ 16 นิ้ว ซึ่งเป้นเหตุผลที่สอดคล้องกันกับความสูงที่เพิ่มขึ้น มิตซูบิชิ จึงเปลี่ยนขนาดของโช๊คอัพให้ใหญ่ขึ้นเพื่อชดเชยการโยนตัวให้ตัวและการถ่ายเทน้ำหนักรถจากความสูงที่เพิ่มขึ้น
ยังมีอีกส่วนในด้านสมรรถนะที่จะต้องกล่าวถึงคือ การตัวค่าของพวงมาลัยที่เมื่อเวลาหมุนตอนกลับรถหรือหมุนเข้าโค้งหนัก ๆ พวงมาลัยจะกลับมาคืนสู่ตำแหน่งกึ่งกลางพร้อมให้อยู่ในช่องทางที่จะไปข้างหน้าอยู่เสมอ โดยฟังก์ชั่นนี้ช่วยในเรื่องการควบคุมรถที่ง่ายสำหรับทุกคน รวมถึงน้ำหนักพวงมาลัยยังปรับตามความเร็วรถอีกด้วยทำให้ในเมืองคล่องตัวส่วนขับขี่นอกเมืองหรือทางไกลก็มั่นใจด้วยน้ำหนักพวงมาลัยที่มากขึ้นตามความเร็ว
กล่าวโดยสรุป ในแง่ของสมรรถนะ Mitsubishi Xpander ใหม่ ขับดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าในทุกด้านทั้งอัตราการตอบสนองและกำลังลากเหลือ แม้จะไม่ได้มีการปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์แต่อย่างใด เปลี่ยนแค่เกียร์เท่านั้น ! ช่วงล่างนุ่มจริงอะไรจริงนั่งสบายตลอดการเดินทาง แม้ว่าถ้าจะเปรียบเทียบเรื่องความสนุกในการขับขี่เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีข้อได้เปรียบกว่า แต่ถ้าเรื่องนุ่มนวลกว่านี่คงต้องยอมให้ Mitsubishi Xpander ใหม่ จริงๆ
ส่วนด้านการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ มีดังนี้
ภายนอกของตัวรถ
- ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield ที่บ่งบอกถึงพละกำลังและความมั่นใจ
- ด้านหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมติดตั้งกันชนท้ายและแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ ดีไซน์แบบ 3 มิติ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่
- ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์รูปตัว T ติดตั้งทั้งอยู่กับตัวรถ สว่างขึ้น 20%
ภายในห้องโดยสาร
- ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่แบบ Horizontal Axis
- พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ทรงสปอร์ต กระชับมือ
- เบาะนั่งออกแบบใหม่มาที่มาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อนหรือ Heat Guard
- ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่แบบสีทูโทน สีน้ำตาล-ดำ ใช้วัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มเบาะนั่ง และมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน และแผงประตูข้าง
- ดีไซน์คอนโซลกลางใหม่ ที่มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ ที่พักแขนที่สามารถเก็บขวดน้ำขนาด 600 มิลลิลิตร
- ช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะแถวที่สอง แบบ Type-A และ Type-C พร้อมช่องจ่ายกระแส ไฟ DC ขนาด 12 โวลต์ บริเวณคอนโซลหน้าและเบาะนั่งแถวที่สาม
- ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชัน Max Cool และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน
- หน้าจอระบบสัมผัส รุ่นใหม่ ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับการใช้งานแอปเปิล คาร์เพลย์
ในส่วนของการดีไซน์ต่าง ๆ อยากนิยามให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ Mitsubishi Xpander ใหม่ ดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อาจจะไม่หวือหวาเหมือนรุ่นก่อนหน้าที่ดูล้ำดูแปลกตา แต่ครั้งนี้ดูมีความเรียบหรูดีมากขึ้นโดยเฉพาะภายนอกที่ส่วนตัวมีความเห็นว่าลงตัวสมส่วนมากขึ้น เช่นเดียวกับภายในที่มีความหรูหราด้วยการใช้วัสดุคุณภาพดีและมีส่วนบุนุ่มมากมายเต็มไปหมด คือต้องลองมาสัมผัสจริง ๆ ถึงจะเห็นได้ชัดกว่าการดูในแผ่นกระดาษบอกสเปค แล้วจะสัมผัสได้ถึงความพรีเมี่ยมมากขึ้น
อีกส่วนหนึ่งคือ ในรุ่นนี้ใส่วัสดุซับเสียงในส่วนต่าง ๆ ของตัวรถมากขึ้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของรุ่นนี้นับตั้งแต่เปิดตัวมาเดิมอยู่แล้วและถูกพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกในรุ่นนี้ สอดคล้องกับเสียงเกียร์ที่ลดลงซึ่งกล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ ทำให้เวล่คุยกันภายในห้องโดยสารไม่ต้องตะโกนคุยกันโหวกเหวก
ขณะที่ ในรุ่นนี้ใส่ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติพร้อมระบบ Brake Auto Hold มาไว้ให้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
สุดท้าย เรื่องระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ใน Mitsubishi Xpander ใหม่ ถือเป็นสข้อสังเกตหนึ่งที่ควรใส่ใจเช่นกัน เพราะที่มีมาให้ก็พื้นฐานทั่วไป เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (2 จุด), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบเสริมแรงเบรก (BA), ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟัและควบคุมการลื่นไถล (TCL), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ซึ่งจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ พอมี !
เซอร์ไพรส์! “หมาก ปริญ” ขอ “คิมเบอร์ลี่” แต่งงานที่สวิตเซอร์แลนด์
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันและในราคาใกล้เคียงกัน (มิตซูบิชิ ประกาศราคาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565) ซึ่งประกาศราคาหลักคู่แข่งอีกต่างหาก ซึ่งระบบความปลอดภัยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วในส่วนของ Mitsubishi Xpander ใหม่ ว่ากันตรง ๆ คือ น้อยกว่าคู่แข่งพอสมควรเลย ซึ่งถ้า มิตซูบิชิ ใส่ระบบความปลอดภัยเข้ามาแน่นกว่านี้น่าจะทำให้ไม่ต้องเหนื่อยมากในการรักษาเจ้าตลาดไว้อย่างสบาย ชิล ชิล