ช็อกวงการมวยไทย! มะเร็งคร่าชีวิต “นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ข่าวเศร้าวงการมวยไทย “นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ” ฉายา “จอมไถนา” เสียชีวิตเมื่อคืนนี้ ด้วยโรคมะเร็งปอด ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

สิ้นแล้ว “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ”  อดีตนักมวยดัง

เผาแล้วยอดมวยดัง "นำพล หนองกี่พาหุยุทธ"

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2564 ผู้สื่อจข่าวรายงานว่า วงการมวยไทยได้สูญเสียยอดมวยในตำนานอีกคน คือ “จอมไถนา” นำขวน หนองกี่พาหุยุทธ หลังตรวจพบเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 และเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา  โดยมีการรักษาทั้งที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนครราชสีมา ต่อมามะเร็งได้ลุกลามขึ้นไปถึงสมอง จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบันอายุ 48 ปี ช็อกวงการมวยไทยเป็นอย่างมาก

สำหรับ “นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ” มีชื่อจริงว่า คำเพียว ศรีจันทึก ชื่อเล่น เพียว เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2516 ที่ ตำบลทุ่งกระดานพัฒนา อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ปัจจุบันอยู่ที่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นน้องชายของ “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” นำพล หนองกี่พาหุยุทธ ผู้เคยโดนศอกแม่ไม้ “ทัดมาลา” จาก สามารถ พยัคฆ์อรุณ จนลือลั่นเป็นตำนาน

“นำขบวน “ นักชกรูปหล่อหน้าคม เคยทำสถิติไม่น่าจดจำ “แพ้น็อกเร็วที่สุด” เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2533 ด้วยการโดนตวัดฮุคซ้ายหมัดเดียว พ่ายน็อกยกแรกในเวลาเพียง 33 วินาทีให้กับ “ไอ้หนุ่มชีวาส” วังจั่นน้อย ส.พลังชัย มาแล้ว จนทำให้วังจั่นน้อยได้รับฉายาว่า “ไอ้หมัด 33 วิ” จากการพบกันทั้งหมด 4 ครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะคนละ 2 ครั้ง

 

จากนั้นมา “นำขบวน” ได้พัฒนาฝีมือขึ้นมา กลายเป็นยอดมวยที่ชกได้สวยงาม และกลายเป็นมวยเอกค่าตัวเงินแสน นำขบวนมีท่าไม้ตายทีเด็ดคือ “ไถนา” คือการจับขาของคู่ชกแล้วไถดันไปข้างหลังให้เสียหลัก จึงได้รับฉายาจากแฟนมวยว่า “จอมไถนา” จากการที่นำขบวนชอบใช้ลูกไถนานี้ จึงได้มีการประชุมกติกาและตกลงกันใหม่ว่า ห้ามนักมวยไทยใช้ลูกไถนานี้อีก เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้ ซึ่งยังใช้เป็นกติกามาจนปัจจุบัน

“นำขบวน” เคยสร้างประวัติศาสตร์โดยเป็นแชมป์รุ่นจูเนียร์ไลท์เวท (130 ปอนด์) ของเวทีลุมพินียาวนานถึง 6 ปี โดยไม่มีใครสามารถชิงแชมป์ได้ จนต้องสละตำแหน่งไป และเคยเป็นแชมป์ของสภามวยไทยโลกด้วย โดยมีค่าตัวการชกสูงสุดถึง 260,000 บาท

หลังจากเลิกชกมวย “นำขบวน” ก็ได้มาเปิดร้านขายหมูกระทะ อยู่บริเวณถนนสืบศิริ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และไปสอนมวยไทยอยู่ที่ไทเกอร์มวยไทย ยิมมวยที่ จังหวัดภูเก็ต แต่ภายหลังจากที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดในระลอกที่ 2 ก็ได้กลับมาช่วยภรรยาขายหมูกระทะเหมือนเดิม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 จึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จนกระทั่งมะเร็งได้ลุกลามขึ้นสมอง และเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 7 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 22.00 น. รวมอายุ 48 ปี

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ