พี่สาวนำร่างน้องสาวกลับบ้านเกิด ถูกผู้ใหญ่บ้านสั่งห้ามจัดงานศพ ไล่ซ้ำเจอวัดไหนก็เผาวัดนั้น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พี่สาวพาร่างน้องสาวที่ผูกคอเสียชีวิตกลับไปจัดงานที่บ้านจ.เลย ถูกผู้ใหญ่บ้านสั่งห้ามไม่ให้มาจัดงานศพในหมู่บ้านหวั่นแพร่เชื้อโควิดถ้าจะมาชาวบ้านและพระจะไม่มีใครมาร่วมงานด้วย จึงหอบร่างไร้วิญญาณกลับมาจัดที่ศรีราชา ทั้งที่เดินทางไปเกือบครึ่งทางแล้ว

หมอเชียงใหม่ ร้องยาโควิด "ฟาวิพิราเวียร์"หมดสต๊อก ห่วง 2 พันคนติดเชื้อ ดั่งเสก โพสต์แป๊บเดียวได้ยามา...

“เอนก” เผยรัฐบาลติดต่อซื้อวัคซีนโควิด-19 จากรัสเซีย แล้ว เริ่มระดมฉีด พ.ค.นี้

วันนี้ 19 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.จองผา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ต.ปากดม อ.เชียงคาน จ.เลย ว่าไม่สามารถนำร่างน้องสาว คือ น.ส.วันณา อายุ 28 ปี ที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุผูกคอตาย ภายในห้องเช่าพื้นที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยทางญาติได้เคลื่อนย้ายศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่ วัดในต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย จึงได้ประสานไปทางแม่ของตนเองที่อยู่ในพื้นที่นั้น ซึ่งได้นำร่างเดินทางกลับไปจนเข้าเขตจ.นครราชสีมาแล้ว แต่ได้รับแจ้งว่าทางผู้ใหญ่บ้านไม่ให้เคลื่อนศพมาจัดงานในพื้นที่ เนื่องจากน.ส.วันณานั้นเสียชีวิตในพื้นที่จ.ชลบุรี ที่เป็นพื้นที่สีแดง มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เกรงว่าจะมาแพร่เชื้อในพื้นที่จังหวัดเลย จึงได้วนรถกลับมาหาวัดในพื้นที่อ.ศรีราชาจัดงานอย่างกะทันหัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชาช่วยหาวัดให้ โดยสามารถจัดงานได้ที่ ศาลา 2 วัดจุกกะเฌอ ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

โดย น.ส.จองผา เปิดเผยว่า น้องสาวตนเองได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุผูกคอตายจึงได้ติดต่อรับร่างน้องสาวจากโรงพยาบาลและขอรถกู้ภัยนำร่างไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของตนเองและน้องสาว โดยมีครอบครัวตนเองเป็นคน อ.เชียงคาน มีแม่เป็นคนลาว จึงติดต่อแม่ ให้ประสานขออนุญาตผู้ใหญ่บ้านว่าจะนำร่างน้องสาวไปจัดงานที่บ้าน ขณะนั้นทางผู้ใหญ่ ก็ตกปากคำว่าสามารถทำได้ ตนเองจึงได้ทำเรื่องเคลื่อนย้ายศพน้องสาว จากพื้นที่ อ.ศรีราชากลับบ้านทันที

 หลังจากนั้นขณะเคลื่อนย้ายร่างน้องสาวมาถึงบริเวณเขาปักธงชัยเขตจ.นครราชสีมา ตนเองก็ได้รับสายโทรศัพท์จากแม่บอกว่าทางผู้ใหญ่บ้านสั่งห้ามเคลื่อนย้ายศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาแล้วตนเองจึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปพูดคุยกับทางผู้ใหญ่บ้านด้วยตนเอง แต่ปรากฎว่า ถูกต่อว่ากลับมาด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพเหตุเพราะกลัวว่าศพน้องสาวและญาติจะนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ในหมู่บ้าน เนื่องจากมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ทั้งๆที่มีใบรับรองแพทย์แล้วว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจ

รวมทั้งยังบอกว่าพวกตนเองเป็นคนลาวจะรับผิดไหวไหมถ้ามีการแพร่ระบาด ถ้ามาพระที่นี่ก็จะไม่ไปสวดศพให้ คนที่นี่ก็จะไม่ไปร่วมงานด้วยตนเองได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ในหมู่บ้านนั้นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทางผู้ใหญ่บ้านยังบอกอีกว่า ให้ไปจัดพิธีที่ไหนก็ได้ วัดในจ.ชลบุรีก็ได้ เจอวัดตรงไหนก็จอดเผาวัดนั้นนั่นแหละ ทำให้ตนเองต้องน้ำตาไหล ร้องไห้ออกมาไม่คิดว่าผู้ใหญ่บ้านจะพูดแบบนี้ออกมา

หลังจากนั้นตนเองจึงต้องขับรถกลับมาจัดงานศพที่ชลบุรีแทน โดยได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชาจัดการหาวัดให้ โดยแม่จะต้องเดินทางจากบ้านที่จังหวัดเลยมาร่วมงานศพลูกสาวที่ชลบุรีอีก   ซึ่งจะทำการสวดอภิธรรมศพในระหว่างวันที่ 19- 21 เม.ย.แล้วทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 22 เม.ย.ต่อไป

 

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ