บทเรียนไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ความเหมือนที่แตกต่างกับไฟไหม้บ่อขยะแพรษา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ความเหมือนที่แตกต่างกับไฟไหม้บ่อขยะแพรษา แต่เหตุการณ์ไหนสร้างความเสียหายมากกว่ากัน

จากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงานผลิต เม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด เลขที่  87 หมู่ 15 ซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ส่งผลให้ สารสไตรีนโมโนเมอร์ ซึ่งเป็นตัวทำละลายและเป็นสารไวไฟในกลุ่มอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ซึ่งมีขนาดมากกว่า 2,000 ลิตร ที่ถูกกักเก็บอยู่ในพื้นที่ ระเหยและกระจายออกไปในอากาศ โดยรอบในรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตร จากโรงงาน

ผู้อพยพแน่น อบต.บางพลีใหญ่ เผย นาทีเฉียดตาย

คอนเทนต์แนะนำ
ด่วน! ไฟไหม้ รง.ผลิตโฟม ซ.กิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ ระเบิดดังสนั่นไกล 10 กม.

 

ทีมข่าวพีพีทีวี จึงได้สอบถามไปยัง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าหากเปรียบเทียบผลกระทบด้านมลพิษ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะแพรกษา เมื่อปี 2557 แล้ว เหตุการณ์ไหน ส่งผลกระทบรุนแรงกับประชาชนมากกว่ากัน

 

โดยนายอรรถพล ระบุว่า เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานผลิต เม็ดโฟมและพลาสติก จะสร้างความเสียหายด้านมลพิษมากกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะแพรกษา อย่างแน่นอน เนื่องจากเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นล่าสุด เป็นเพลิงไหม้ที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีที่ถูกปลดปล่อยออกมา ส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นสารก่อมะเร็งได้ด้วย

ซึ่งต่างกับเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะแพรกษา ที่เป็นขยะทั่วไป แม้จะมีการปลดปล่อยมลพิษ แต่ความเข้มข้นที่เกี่ยวกับสารเคมีนั่น เทียบไม่ได้กับเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก และหากเทียบมูลค่าความเสียหายด้านมลพิษ ครั้งนี้ย่อมสูงกว่าครั้งที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ ทางกรมควบคุมมลพิษ จะส่งทีมลงพื้นที่เพื่อตรวจวัดคุณภาพบรรยากาศในพื้นที่โดยรอบ พบว่าอยู่ในเกณฑ์ค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน หรือไม่ เพื่อเตือนประชาชน และหลังจากเพลิงสงบจะตรวจสอบสภาพอากาศโดยรอบโรงงานอีกครั้ง เพื่อประเมินดูความเสียหายทางด้านมลพิษก่อนจะหาตัวผู้รับผิดชอบ

 

ขณะที่ ผศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหน้าโครงการติดตามลักษณะทางอุตุนิยมวิทยาใกล้ผิวดินและมลสารทางอากาศสำหรับประเทศไทยก็ ยอมรับว่าเหตุเพลิงไหม้ ที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงมากกว่า เหตุเพลิงไหม้บ่อขยะแพรกษา

ผศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เนื่องจากกระบวนการเผาไหม้ เมื่อครั้งบ่อขยะแพรกษาแม้จะมีมลพิษ แต่ก็เป็นเพียงกากอุตสาหกรรมปริมาณน้อย แต่ในขณะที่การเผาไหม้ในโรงงานนั้นเปรียบเสมือนกับเป็นหัวเชื้อสารเคมี เมื่อผ่านกระบวนการเผาไหม้ จึงปล่อยสารที่ชื่อ คาสิโนจินิกซ์ ( Carcinogens) หรือสารก่อมะเร็ง ในปริมาณที่มากกว่าหลายเท่า

 

และในการประเมินด้วยสายตา ดูจากควัน ถ้ายิ่งกระบวนการการเผาไหม้ยิ่งกินเวลานานก็จะยิ่งส่งผลให้การปนเปื้อนของสารเคมี มีความเข้มข้นสูงขึ้น

นอกจากนี้  ผศ.ดร.สุรัตน์ ยังฝากถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงในรัศมี 5 กิโลเมตร ให้ระวังช่วงเวลาเย็นก่อนค่ำ ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อันตรายที่สุด เนื่องจากจะเป็นช่วงที่ ที่สารเคมีจะปนเปื้อนในอากาศสูง สืบเนื่องจากชั้นบรรยากาศมีการจมตัวลง ดังนั้นใครอยู่ใกล้พื้นที่จะได้กลิ่นสารเคมีที่รุนแรงมากขึ้นตามด้วย

ดังนั้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุควรอพยพออกจากพื้นที่และไปพักอาศัยในจุดอื่นจนกว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมเพลิงได้ แล้วรออีก 1 วันค่อยกลับเข้าบ้านและเช็ดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนด้วยน้ำสะอาด

คอนเทนต์แนะนำ
“อ.อ๊อด” ชี้ ไฟไหม้-ระเบิดโรงงาน “หมิงตี้เคมีคอล” หนักกว่าราชประสงค์ 100 เท่า!

 

 

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ