กระทรวงสาธารณสุข ประกาศปิดโรงพยาบาลบุษราคัมขนาด 3,700 เตียง ภายหลังจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ลดลง ส่งผู้ป่วยรายสุดท้ายกลับบ้านเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมสรุปยอด 130 วันดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 20,289 ราย ผู้ป่วยวิกฤต 92 ราย กึ่งวิกฤต 55 ราย นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ จากมาตรการต่าง ๆ นั้น ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนกันยายน และพบว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่ติดต่อ รพ.บุษราคัม น้อยลงมาก
เปิดใช้งานหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤต (ทับทิม) ของ รพ.บุษราคัม
สธ.ยกระดับ รพ.สนาม เตรียมเปิดไอซียูสนาม มทบ.11
โดยมีประมาณ 5 รายต่อวัน ซึ่งผู้ป่วยรายอื่นก็ได้รักษาจนหาย และกลับบ้านไปหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา จึงมีข้อสรุปจะปิดให้บริการ รพ.บุษราคัม โดยกำหนดรื้อถอนให้แล้วเสร็จในวันที่ 30 ก.ย.นี้ และส่งมอบพื้นที่คืนให้กับอิมแพ็คอารีนา ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ขณะเดียวกันนพ.กิตติศักดิ์ มองว่า แม้ รพ.บุษราคัมจะปิดตัวไปแต่เชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบกับผู้ป่วยในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เพราะระบบสาธารณสุขในพื้นที่สามารถรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ เนื่องจากสถานพยาบาลต่าง ๆ ทั้งโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลสังกัด กทม. โรงพยาบาลของกรมการแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน ต่างขยายจำนวนเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการปานกลาง และหนักมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยนั้น ระบบโฮมไอโซเลชั่นและคอมมิวนิตี้ไอโซเลชั่น รวมถึงมีโรงพยาบาลสนามเปิดใหม่จำนวนมากจึงสามารถรองรับได้
สำหรับโรงพยาบาลบุษราคัม เป็นโรงพยาบาลสนาม ขนาด 3,700 เตียง เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 จำนวน 1,100 เตียง ต่อมามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจึงได้เปิดระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 อีก 1,100 เตียง
และในเดือนกรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็วจากการระบาดของ สายพันธุ์เดลต้า จึงเปิดดำเนินการในระยะที่ 3 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 อีก 1,500 เตียง และเปิดหอผู้ป่วยวิกฤตโกเมน จำนวน 17 เตียง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 เพื่อรับผู้ป่วยใส่ท่อทางเดินหายใจหรือใช้ออกซิเจนไฮโฟลว์ แต่ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ยังต้องให้ออกซิเจนไฮโฟลว์และการดูแลใกล้ชิด จึงเปิดหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤตทับทิม จำนวน 32 เตียง เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้
อังกฤษรับรอง "โควิชิลด์" วัคซีนแอสตร้าฯ ผลิตในอินเดีย
เตือน! ซื้อยาจากร้านขายยาที่ไม่มีเภสัชกรอาจได้รับอันตราย