นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยพบว่าวันนี้กรมชลประทานได้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อน ในอัตรา 1,200 ลบ.ม./วินาที โดยคาดการณ์ว่าอีกประมาณ 7 ชม.ถึงตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุร และอีก 24 ชม. ถึงเขื่อนพระราม 6 โดยได้สั่งการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด น้ำในเขื่อนป่าสักฯ อยู่ที่ 1014.15 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 105.64%
กรมชลประทานเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำอ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี รับมือน้ำท่วมสูง
กทม. เตือน ชุมชนริมเจ้าพระยา ระวังน้ำขึ้นสูง 1-5 ต.ค.นี้ รับมือเขื่อนป่าสักฯระบายเพิ่ม
อำเภอสรรพยา ท่วม 6 ตำบล ชาวบ้านเผยไม่รุนแรงเหมือนปี 54
ขณะที่ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า ในการบริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ร่วมกับการตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้งสองฝั่งและพื้นที่ลุ่มต่ำ จะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาประมาณ 2,700 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอัตรา 900 - 1,200 ลบ.ม./วินาที
ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (C.29A) อยู่ในอัตราประมาณ 3,000 – 3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนด้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 1.20 - 2.40 เมตร และด้านท้ายเขื่อนพระรามหก จะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 2.30 - 2.80 เมตร ในช่วงวันที่ 1 – 5 ตุลาคม 2564
และจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ ดังนี้
- จังหวัดชัยนาท แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา
- จังหวัดสิงห์บุรี แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดเสือข้าม วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี
- จังหวัดอ่างทอง คลองโผงเผง และแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดไชโย อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก
- จังหวัดลพบุรี ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก บริเวณอำเภอพัฒนานิคม
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณคลองบางบาล และริมแม่น้ำน้อย บริเวณตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอหักไห่ และริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง อำเภอพระนครศรีอยุธยาจรดแม่น้ำเจ้าพระยา
- จังหวัดสระบุรี ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งคอย อำเภอเมือง อำเภอเสาไห้ และอำเภอบ้านหมอ
- จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
- กรุงเทพมหานคร แนวคันกั้นน้ำบริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ กรมชลประทาน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงและพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่
พร้อมประสานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ด้านท้ายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระรามหก เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ในบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาให้ทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งทำการปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ เพื่อรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัย เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมทั้งเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
กทม. เตือน ชุมชนริมเจ้าพระยา ระวังน้ำขึ้นสูง 1-5 ต.ค.นี้ รับมือเขื่อนป่าสักฯระบายเพิ่ม
เช็กข้อกำจัดคลายล็อก เปิดสถานที่ กิจกรรม ในกทม. เผย 12 สถานที่ยังต้องปิดยาว