กองสลาก.com ถูกหลอกขายหวยสูญเงิน 90 ล้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จากข่าว สจ.ดำ ฆ่ายกครัว และมีการคาดการณ์ว่า น่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องหนี้ลอตเตอรี่ ที่ติดนายสมรักษ์ คำสิงห์ ทีมข่าวขยายประเด็นเรื่อลอตเตอรี่ที่ชาวบ้านแห่ลงเงินไป แต่ไม่ได้ของ จนสูญเงินในระบบรวมหลายสิบล้าน ล่าสุด เจออีก ผู้บริหารเว็บไซต์ซื้อ-ขาย สลากออนไลน์ ถูกหลอก เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ก็ไม่รอด ถูกหลอกสูญเงินเกือบ 100 ล้านบาท

นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ผู้บริหารกองสลาก.com และกองสลากพลัส เปิดใจกับทีมข่าว ว่า เขาถูกหลอกขายลอตเตอรี่โดยเริ่มจาก มีเพื่อนสนิท ติดต่อมาแนะนำว่า พ่อของเพื่อน สามารถหาลอตเตอรี่ในราคาถูกได้จำนวนมาก

นายพันธ์ธวัช เห็นว่าเป็นพ่อของเพื่อนสนิท ความน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย ตอนแรกเริ่มซื้อลอตเตอรี่กัน 5,000 ใบ ราคาใบละ 74-75 บาท ตอนแรกก็ได้รับลอตเตอรี่ตามปกติ  

แม่ค้าหวยถูกโกงช็อก ผู้ต้องหาขอผ่อนคืน 159 ปี

เปิดใจชาวบ้านเครือข่ายสมรักษ์ ถูกหลอกขายหวย

จากนั้นก็เพิ่มจำนวนลอตเตอรี่มากขึ้น เป็นหลักหมื่นใบ จนล่าสุดสั่งลอตเตอรี่ไป 650,000 ใบ แต่ไม่ได้ลอตเตอรี่แม้แต่ใบเดียว กลโกง ของมิจฉาชีพ คือ ติดต่อมา เสนอขายลอตเตอรี่ราคาถูก แต่กำหนดว่าต้องข่ายเงิน 2 งวดติด เช่น รอบล่าสุด ที่ นายพันธ์ธวัช ตัดสินใจซื้อลอตเตอรี่650,000 ใบ  ราคาใบละ 75บาท รวมเป็นเงิน กว่า 48 ล้านบาท  คิดเงิน 2 งวด รวมเป็นเงิน กว่า 97 ล้านบาท เมื่อโอนเงินให้ ปรากฎว่า มิจฉาชีพหายตัวไป ไม่ได้ลอตเตอรี่แม้แต่ใบเดียว

จากข้อมูลที่ตนเองได้รับมาขณะนี้มีเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพในขบวนการหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล แล้วไม่ได้รับสลาก กว่า 1,000 คน รวมความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายในภาคอีสานถูกหลอกจำนวนมาก และส่วนใหญ่มิจฉาชีพใช้วิธีการหลอกคนที่เป็นเพื่อน คนมีชื่อเสียง ญาติพี่น้อง ให้มาหลอกคนที่ต้องการลงทุนอีกทอดหนึ่งเพื่อสร้างความไว้วางใจ

อย่างเคสที่ตัวเองถูกหลอก มาจาก มิจฉาชีพเห็นว่าตนเองทำธุรกิจเกี่ยวกับสลากออนไลน์ จึงติดต่อทางพ่อเพื่อนที่สนิทกัน แนะนำว่า สามารถหาสลากในราคาถูกได้จำนวนมาก พ่อของเพื่อนจึงให้เพื่อนมาเสนอตนเอง เมื่อตนเองเห็นว่า คนที่ร่วมลงทุนเป็นคนที่พ่อเพื่อนซึ่งมีความน่าเชื่อถือแนะนำ จึงตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย โดยช่วงแรกได้สั่งซื้อสลากจำนวน 5000 ใบ ในราคาใบละ 74 -75 บาท ซึ่งได้สลากจริงตามกำหนด จึงมีการเพิ่มจำนวนการสั่งมากขึ้นมากขึ้นเป็น10,000-20,000บาท ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหา จนถึงยอดการสั่งซื้อล่าสุดจำนวน 650,000 ใบ ในงวดที่ถูกโกง ซึ่งตนเองต้องจ่ายเงิน ใบละ 75บาท รวม2งวด เป็นเงินกว่า 97 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้รับสลาก

นายพันธ์ธวัช บอกว่า หลังจากที่ถูกหลอก เขาพยายามสืบหาตัวมิจฉาชีพ พบว่าเป็น 2 สามีภรรยา ที่อยู่ในจ.เลย มาติดต่อ พ่อของเพื่อนสนิท และประสานต่อมาที่เขา ตอนนี้เพื่อนสนิทเขาแจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่ยังจับกุมตัวไม่ได้ ส่วนตัวมองว่า การถูกโกงลอตเตอรี่เกิดขึ้นหลายครั้ง มูลค่าความเสียหายมหาศาล แต่ยังไม่เคยการตัดสินคดีที่เกี่ยวกับการโกงลอตเตอรี่ ในข้อหาฉ้อโกง  มีแค่การดำเนินคดีฐานผิดสัญญา ซึ่งเป็นกฎหมายแพ่งโทษไม่สูง 

หลังจากนี้ตั้งใจว่า จะออกมาแฉกลุ่มมิจฉาชีพพวกนี้ โดยจะทำเป็นรายการแฉ เปิดกลโกง ขบวนการทั้งหมด แบบจริงจัง เพื่อหวังว่าจะไม่มีใครถูกหลอกอีก รวมถึงมองว่าขบวนการเหล่านี้เป็นต้นตอของการทำให้ลอตเตอรี่แพง

นายพันธ์ธวัช เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า กลโกงหลอกขายลอตเตอรี่ มีอย่างน้อย 4 รูปแบบ  คือ แบบจองข้ามงวด  รูปแบบนี้คือที่นายพันธ์ธวัช โดนโกง

แบบที่ 2 คือ แบบ เท-คอม มิจฉาชีพจะใช้วิธี หลอกให้ทำสัญญารายปี เช่น มิจฉาชีพ เสนอขายลอตเตอรี่หลักล้านใบ อ้างว่าได้โควต้ามาจากกองสลากฯ ราคาใบละ 70.40 บ. จากนั้นจะให้ทำสัญญาเอกสารสัญญาซื้อ-ขาย รายปี เรียกว่า “หนังสือเจตจำนงขอซื้อ” และให้สั่งจ่ายเช็คค่าลอตเตอรี่ ในชื่อ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและ ให้จ่ายมัดจำล่วงหน้า 24 งวด หมายความว่า หากซื้องวดละ 1 ล้านใบ ก็ต้องจ่ายเงินซื้อ 24 ล้านใบ ก่อน

รูปแบบที่ 3 คือ กินเงินมัดจำ วิธีการคือ มิจฉาชีพ หลอกว่าได้โควตาลอตเตอรี่จากแหล่งคนที่น่าเชื่อถือต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหารยศใหญ่ คนในสำนักงานสลากฯ จากนั้น เสนอให้จ่ายเงินมัดจำตามจำนวนที่ตกลงไว้ เมื่อได้เงินมัดจำก็จะหนีทันที

รูปแบบสุดท้าย รูปแบบที่ จองหวยผ่านไลน์ OA  รูปแบบนี้จะให้จองและจ่อยค่าลอตเตอรี่ จำนวนเงินไม่มาก แต่ผู้เสียหายเยอะ

ทีมข่าวตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาพิจารณาพิจารณาศึกษาเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน รวมทั้งรายละเอียดการเป็นผู้แทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลประเภทต่าง ๆ ตลอดจนการโฆษณาหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์

โดยสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด เรื่องขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน จากพฤติกรรมและการกระทำของผู้ถูกกล่าวอ้าง อาจจะเข้าข่ายการกระทำความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ตามมาตรา 3 (9) และ (18) ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว จึงมีมติเห็นควรรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ