บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการผลิตและจัดสรรวัคซีนวิจัยป้องกันโควิด-19 AZD1222 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดตั้งแต่เดือน ต.ค.2563 ของ แอสตร้าเซนเนก้า ชื่อว่า Vaxzevria ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ ผลิตโดยการใส่สารพันธุกรรมส่วนของโปรตีนหนามแหลม (spike protein) ของไวรัส SARS-CoV-2 ไปในอะดีโนไวรัสที่ไม่ก่อให้เกิดโรค
WHO ถกด่วน หลังเจอโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 ในแอฟริกาใต้ พบกลายพันธุ์กว่า 30 ตำแหน่ง
สธ.ชลบุรี แจ้งคนไป "Pattaya Music Festival 2021" ช่วงวันที่ 12-13 พ.ย. ขอให้ตรวจ ATK
อะดีโนไวรัสนี้เป็นตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคไข้หวัดทั่วไป แต่นำมาดัดแปลงพันธุกรรมจนกลายเป็นเชื้อพาหะที่ไม่ก่อให้เกิดโรค
อะดีโนไวรัสที่ได้รับการดัดแปลงแล้วจะทำหน้าที่เป็น “พาหะ” ให้สารพันธุกรรมของโปรตีนหนามแหลมของไวรัส SARS-CoV-2 เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะสร้างโปรตีนนี้ขึ้นและจะกระตุ้นระบบการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรค โดยวัคซีนนี้ดำเนินการผลิตด้วยกระบวนการทางชีวภาพโดยใช้เวลาประมาณ 120 วัน
เริ่มตั้งแต่ 1.การพัฒนากระบวนการ
เพื่อเร่งการขยายกระบวนการผลิต เราได้สร้างกระบวนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ และสามารถสร้างกระบวนการผลิตแบบเดียวกันได้ในโรงงานอีกหลายแห่งทั่วโลก
การเพาะและเก็บเกี่ยววัคซีน (60 วัน)
2.การทำให้เซลล์เพาะเลี้ยงติดเชื้อ เซลล์เพาะเลี้ยงที่มีชีวิตถูกทำให้ติดเชื้อโดยอะดีโนไวรัสเวกเตอร์ตัวฝากที่ถูกดัดแปลง เพื่อให้เซลล์เจ้าบ้านเพิ่มจำนวนเพื่อผลิตเป็นวัคซีน
3.การเพิ่มจำนวนเซลล์
เมื่อไวรัสพาหะเบื้องต้นถูกผลิตแล้ว ยังต้องมีการเพิ่มจำนวนการผลิตอีกนับล้านเซลล์ โดยการให้เซลล์เจ้าบ้านเติบโตในถังปฏิกรณ์ชีวภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และถูกทำให้ติดเชื้อโดยเชื้อไวรัสตั้งต้น เพื่อสร้างวัคซีนเป็นผลผลิตสุดท้าย ซึ่งสามารถผลิตวัคซีนมากกว่า 2,500 โดสจากเซลล์เจ้าบ้าน 1 ลิตร แต่กระบวนการทางชีวภาพ การผันผวนในการผลิตนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ
4.การทำให้วัคซีนบริสุทธิ์
จากนั้นวัคซีนจะถูกแยกออกจากเซลล์เจ้าบ้านและทำให้บริสุทธิ์ ในการทำให้วัคซีนบริสุทธิ์ มีขั้นตอนการกรองหลายครั้งเพื่อกำจัดเศษเซลล์ที่ตายและของเสีย
การผลิตในขั้นสุดท้าย (30-60วัน)
5.การติดฉลาก และบรรจุภัณฑ์
ขวดบรรจุวัคซีนจะถูกติดฉลาก บรรจุลงหีบห่อ และเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส หรือ 36-46 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อให้มั่นใจถึงความเสถียร และอายุการใช้งานของวัคซีน เมื่อมีการจัดเก็บ และขนส่งในอุณหภูมิที่เย็นตามกำหนด วัคซีนสามารถนำไปใช้ในระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน
6.การบรรจุและปิดผนึก
สารปรุงแต่ง เช่น น้ำ น้ำตาล และแร่ธาตุจะถูกเติมเข้าไปในการผลิตขั้นสุดท้าย แล้วจึงบรรจุวัคซีนลงในขวดยา ขั้นตอนนี้ทำในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจะต้องเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการมีผลกระทบต่อระบบไหลเวียนของอากาศที่บริสุทธิ์
การส่งมอบวัคซีนสู่ชุมชน ~7-14 วัน*
7.การทดสอบเสร็จสมบูรณ์
มาตรฐานด้านความปลอดภัยและคุณภาพมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มีการทดสอบและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดมากกว่า 60 รายการ ในทุกๆชุดการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนเสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนที่ผลิตออกมามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และได้คุณภาพตามมาตรฐาน การทดสอบวัดผลกระทบจากความร้อน แสง การแผ่รังสี และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมต่อวัคซีน
8.การรับรองรุ่นการผลิต
ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด และยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องแก่หน่วยงานกำกับดูแลยาเพื่อตรวจสอบ
วัคซีนแต่ละชุดอาจต้องใช้เอกสารหลายพันหน้าก่อนที่จะได้รับการอนุมัติให้นำไปใช้
9.การกระจายและส่งมอบ
ขนส่งวัคซีนไปยังศูนย์กระจายวัคซีนซึ่งรัฐบาลและองค์กรนานาชาติดูแลรับผิดชอบเพื่อดำเนินการแจกจ่ายต่อไป วัคซีนมากกว่า 2 พันล้านโดสถูกแจกจ่ายไปมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวออนไลน์ “FROM LAB TO JAB” เจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภายในปีนี้แอสตร้าเซเนก้าจะส่งมอบให้กับประเทศจนครบ 61 ล้านโดส ส่วนในปี 2565 อีก 60 ล้านโดสและจะผลิตร่วมกับสยามไบโอไซเอนซ์ต่อไป โดยในกำหนดเวลาที่สัญญาไว้ คือ จะส่งมอบทั้งหมดในไตรมาส 3 ปี 2565
สำหรับการผลิตวัคซีนรุ่น 2 รหัส AZD2816 โดยใช้เทคโนโลยีไวรัล เวกเตอร์ (Viral Vector) เช่นเดิม แต่มีการพัฒนาเพื่อให้รับมือกั
อย่างไรก็ตาม แอสตร้าเซนเนก้าและพันธมิตรผู้
ด้านดร.ทรงพล ดีจงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวเสริมว่า เมื่อได้ร่วมกับแอสตร้าเซนเนก้า บริษัทฯ ได้ทำการปรับสายการผลิตเพิ่มเติมให้เหมาะกับเทคโนโลยี ไวรัล เวกเตอร์ ใน 4 ขั้นตอน คือ
1.โรงงาน (Manufacturing Facility) นับเป็นจังหวะดีที่เรามีการสร้
2.บุคลากร (Manpower) เมื่อได้รับเลือกจากทางแอสตร้
3.วัตถุดิบ (Materials) การเตรียมพร้อมด้านวัตถุดิบต่
4.การถ่ายทอดกระบวนการผลิต (Method transfer) สยามไบโอไซเอนซ์มีความภูมิใจเป็
อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการตรวจสอบคุณภาพของวั
ประสบการณ์ที่เราได้รั
และในอนาคต สยามไบโอไซเอนซ์ เดินหน้า ทำชุดตรวจ โควิด-19 โดยใช้เทคโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยาก นานหน่อยกว่าจะเห็นผล แต่เป็นวัตถุประสงค์ของบริษัทเพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศ