เหตุการณ์ที่น้ำจากท่อระบายน้ำ ได้ผุดขึ้นมาจนเอ่อล้นบนผิวถนน จากนั้นปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่ย่านชุมชนตลาดบางบัว บริเวณปากซอยพหลโยธิน 49/1 ทำให้มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน
เบื้องต้นชาวบ้านคาดว่าสาเหตุที่น้ำผุดขึ้นมาผิวถนนแบบนี้ อาจจะมาจากการก่อสร้างถนนเลียบคลองบางเขน ซึ่งดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2563 และใช้เวลานานนับปี จึงทำให้ดินโคลนไปอุดตันตามท่อระบายน้ำ ส่งผลให้น้ำผุดขึ้นมาบนถนน และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในระแวกใกล้เคียง
โวยปิดถนนทำอุโมงค์มานานแต่ยังไม่เสร็จ ใช้ทางเลี่ยงจนช่วงล่างรถพัง
ฝนตก-รถติดมาสาย นายจ้างหักเงินได้หรือไม่
ทีมข่าวพีพีทีวี ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ พบเห็นน้ำเริ่มผุดขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ จากนั้นได้เอ่อท่วมบนพื้นผิวถนน แต่ปรากฎว่าเมื่อคืนกลางดึกประมาณตี 3 น้ำเริ่มผุดเยอะขึ้นกว่าเดิมและไม่มีทีท่าว่าจะลด จนทำให้น้ำท่วมผิวถนนเป็นจำนวนมาก
จากนั้นมวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เบื้องต้นทางตัวแทนชาวบ้านได้โทรศัพท์ไปแจ้งที่สำนักงานเขตจตุจักรแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขแต่อย่างใด
สำหรับการก่อสร้างถนนสายนี้ เป็นโครงการของ กทม. ที่มีแผนสร้างถนนเชื่อมเป็นทางลัดระหว่างถนนพหลโยธิน กับถนนวิภาวดีรังสิต รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
จากการสอบถามตัวแทนผู้ดูแลโครงการทราบว่า โครงการนี้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปี2563 และมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2565 แต่การก่อสร้างอาจต้องล่าช้าออกไปอีกเนื่องจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดทำให้ผู้รับเหมาต้องหยุดงานก่อสร้างเป็นการชั่วคราว
ขณะเดียวกันการสัญจรบนถนนเส้นนี้ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะในชุมชนมีคนเข้าออกตลอดเวลา และส่วนใหญ่ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนจะเดินเท้าออกมาหน้าปากซอย ทำให้ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามหลังชาวบ้านได้ร้องเรียนไปนานกว่า 3 ชั่วโมง ล่าสุดตัวแทนผู้ดูแลโครงการได้เข้ามาสำรวจพื้นที่ พร้อมนำรถแบคโฮมาขุดเพื่อเปิดทางน้ำระบาย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
ส่วนสาเหตุที่น้ำผุดขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ตัวแทนผู้ดูแลโครงการระบุว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรโดยหลังจากนี้จะต้องประสานให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรับผิดชอบโดยตรง เข้ามาตรวจสอบเพื่อสาเหตุอีกครั้ง ก่อนดำเนินการแก้ไขปรับปรุงเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่