แม่ป่วยเขียนจดหมายถึง ผบ.ตร. ขอย้ายลูกส.ต.ท.กลับมาดูแลตนเอง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




โซเชียลแชร์เรื่องราวดราม่าหลังแม่ตำรวจนายหนึ่งเขียนจดหมายด้วยลายมือส่งถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้พิจารณาย้ายลูกชาย ที่เป็น ผบ.หมู่ (ป) ประจำ สภ.หัวหิน ให้กลับไปดูแลตัวเองที่ป่วยอยู่ จ.กาฬสินธุ์

เปิดคุณสมบัติ รปภ.ห้ามมีคดีทางเพศติดตัว

ดราม่า “นายจ้าง” ไม่พอใจใส่นวมชกลูกน้อง

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จดหมาย ที่นางบุญล้อม วงศ์ชัยนันท์ ชาว ต.หนองแปลน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เขียนขึ้น ถึงผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เนื้อหาภายในจดหมายระบุความประสงค์อยากขอให้พิจารณาย้ายลูกชาย คือ ส.ต.ท.จีรศักดิ์ สมเนตร ตำแหน่งผบ.หมู่ปราบปราม สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลับภูมิลำเนา เพื่อดูแลตัวเองที่มีโรคประจำตัวและพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน  กลายเป็นเห็นเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างเห็นใจ 

 

โดยผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อกับ ส.ต.ท.จีรศักดิ์ สมเนตร ยืนยันว่า จดหมายฉบับนี้แม่ตนเป็นผู้เขียนขึ้นมาจริง โดยวัตถุประสงค์ไว้ใช้แนบส่งไปกับเอกสารการขอโยกย้ายตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตร และผบ.หมู่ ชั้นประทวน ประจำปี 2564  ซึ่งขณะนี้เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นแล้ว ส่วนสาเหตุที่ตนเองโยกย้ายนั้น ก็เป็นไปตามที่เขียนในจดหมายคือ ตั้งใจกลับไปดูแลแม่ที่ป่วย

ส.ต.ท.จีรศักดิ์ เล่าว่า แม่ขป่วยติดเชื้อเรื้อรังมากว่า 20 ปีแล้ว ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อรับยาเองตลอด โดยมีป้าช่วยดูแล แต่ช่วงปีที่ผ่านมาแม่ป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ป้าของตนเองขับรถไม่เป็น  ต้องจ้างรถรับ-ส่ง ไปโรงพยาบาล แต่ละครั้งก็ค่อนข้างลำบาก รวมถึงตนเองอยู่หัวหินห่างไกลจากที่บ้าน  800 ถึง 900 กิโลเมตร ทำให้ในแต่ละปีจะกลับบ้านได้ไม่เกินสองครั้ง จึงไม่สามารถดูแลแม่ได้ตลอด เมื่อเห็นปัญหาส่วนนี้ ด้วยความที่ตนเป็นลูกชายคนเดียวจึงอยากกลับไปช่วยดูแลแม่ ส่วนเรื่องที่จดหมายถูกแชร์ออกไปตามสื่อโซเชียล คาดว่าน่าจะมาจากการส่งต่อกันในกลุ่มไลน์เพื่อนตำรวจ แต่ไม่รู้ว่าหลุดออกไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการโจมตีหน่วยงานแต่เป็นเพียงความต้องการทำเพื่อครอบครัวเท่านั้น โดยหลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปล่าสุดได้มีคนติดต่อมาว่าส่งเรื่องถึงผู้บังคับบัญชาแล้วและอยู่ในระหว่างรอพิจารณา ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากผู้บังคับบัญชา

สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจชั้นประทวน มีการออกราชกิจจานุเบกษา กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2561 ระบุไว้วิธีการดำเนินการสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ยื่นคำร้องขอการแต่งตั้งพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาเสนอต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นโดยให้หัวหน้าหน่วยนั้นพิจารณาความเห็น แล้วส่งให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งต่อไป โดยเกณฑ์การคัดเลือกจะพิจารณาจากคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่าสองปี  เป็นข้าราชการตำรวจครั้งแรกหรือแต่งตั้งเลื่อนขั้นเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนหรือสัญญาบัตรครั้งแรกไม่น้อยกว่าสองปี หรือไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับให้ได้รับเงินเดือนตามคุณสมบัติ

 

ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ที่ผ่านมาเหตุผลเรื่องครอบครัว ทั้งความต้องการเรื่องดูแลครอบครัว พ่อ แม่ที่ป่วย ดูแลภรรยาหรือลูกเล็ก เป็นเหตุผลแรก ๆ ที่นายตำรวจใช้ยื่นเรื่องโยกย้ายทุกปี จึงไม่สามารถใช้ในการพิจารณาได้ เพราะต้องดูตามความเหมาะสมเรื่องกำลังพลในพื้นที่ด้วย ซึ่งการพิจารณาการโยกย้ายนั้นผู้บังคับบัญชาชั้นต้นในสายงานที่สังกัดอยู่จะเป็นผู้ประเมินคนแรก หากสังกัดอยู่ในสถานีตำรวจภูธร ผู้กำกับสถานีตำรวจนั้นๆ ต้องพิจารณาว่าหากมีการโยกย้ายแล้วจะขาดเจ้าหน้าที่ในส่วนงานใดหรือไม่ ก่อนส่งเรื่องให้ผู้การจังหวัดพิจารณาต่อ ซึ่งส่วนใหญ่หากเห็นตรงกันว่าเหมาะสมที่จะโยกย้ายก็จะอนุมัติตามคำร้องขอ  แต่หากพบว่าโยกย้ายแล้วอาจไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงานในส่วนงานที่ย้ายออก ก็จะไม่ได้โยกย้ายตามคำขอ

นอกจากนั้นขณะนี้ยังมีการโยกย้ายโดยการสลับเปลี่ยนพื้นที่โยกย้ายกัน ในลักษณะการจับคู่ เพื่อไม่ให้กำลังพลขาดหาย แต่ส่วนนี้ก็ต้อง พิจารณาตามเกณฑ์ เช่น ปฏิบัติหน้าที่ตามระยะที่กำหนดหรือไม่ รวมถึงพิจารณาพฤติกรรมความประพฤติรายบุคคลด้วย

ส่วนกรณีแม่ของนายตำรวจ สภ.หัวหินที่เขียนจดหมายถึง ผบ.ตร.นั้น โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ไม่มีประโยชน์ในการพิจารณาโยกย้ายตำแหน่งเลย

 

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ