สาวงงรร.ที่เขาใหญ่ ฟ้อง 3 ล้านหลังรีวิวต่ำ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เรื่องที่ถูกแชร์กันบนโลกโซเชียล กรณีที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่ามีหญิงคนหนึ่ง ได้รีวิวโรงแรมที่เขาใหญ่ในแอปพลิเคชันสำหรับจองที่พัก แล้วให้คะแนนต่ำ หลังจากนั้นได้ถูกโรงแรมส่งหนังสือเรียกค่าเสียหาย 3 ล้านบาท พร้อมให้แก้ข่าวลงหนังสือพิมพ์

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความและเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ภาพหญิงคนหนึ่ง พร้อมข้อความรีวิวโรงแรมที่เขาใหญ่ ของหญิงคนหนึ่ง โดยระบุระบุว่า หญิงคนนี้ได้เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งที่เข้าใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา หลังจากเข้าพัก ได้ให้คะแนนโรงแรมผ่านแอปพลิเคชันสำหรับจองที่พัก 6 คะแนน พร้อมแสดงความคิดเห็น ในลักษณะที่ห้องพักไม่ตรงกับภาพโฆษณา  ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกจากพนักงานห้องพักไม่สะอาดทางเข้าค่อนข้างลำบาก ไม่มีไฟสองสว่างเพียงพอ ราคาแพงเกินมาตรฐานที่ควรจะเป็น

ด่วน! กทม. สั่งปรับแผนเรียนออนไลน์ 109 โรงเรียน เคาะฉีด "ไฟเซอร์" เด็ก 5-11 ปี ก.พ. นี้

TDRI วิเคราะห์ดัชนีความมั่นคงด้านสุขภาพ ไทยสมควรอยู่อันดับ 5 ของโลกจริงหรือ?

 

โดยต่อมาวันที่ 29 ธ.ค.64 โรงแรมส่งจดหมายโนติสแจ้งเตือนให้ลบรีวิวทันที และระบุในเอกสารว่า หากไม่ทำตามจะขอคิดค่าเสียหายวันละ 50,000 บาท  และให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 3,000,000 บาท ภายใน 15 วัน

ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเข็ม 3 “ไฟเซอร์” ผ่านเครือข่ายมือถือ เริ่ม 7 ม.ค. 65

รวมถึงให้กล่าวคำขอโทษในหนังสือพิมพ์ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งหากไม่ทำตามจะมีการดำเนินคดีทั้งตามกฏหมายแพ่งและอาญาต่อไป

ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ ทนายษิทรา เล่าว่า ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ตนเองได้เปิดช่องทางให้ปรึกษากฎหมายออนไลน์

หลังจากนั้น คุณขิง หญิงคนดังกล่าวได้เข้ามาปรึกษากับตนเองว่า  ในช่วงปี 2563 เธอได้พักโรงแรมแห่งหนึ่งที่เขาใหญ่ ก่อนที่ช่วงเดือนธันวาคมปี 2564 เธอได้เข้าไปรีวิวโรงแรมแห่งนี้ผ่านแอปพลิเคชันสำหรับจองที่พัก โดยเป็นการรีวิวย้อนหลัง

จากนั้นไม่นานทางโรงแรมได้ส่งเอกสารเตือนโนติสให้เธอชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งเธอไม่เข้าใจว่าในฐานะผู้บริโภคทำไมถึงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ จึงนำเรื่องนี้มาปรึกษาตนเอง

ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อความการรีวิวแล้ว ทนายษิทรา บอกว่าไม่เห็นความผิดปกติในข้อความ มีทั้งการติ เพื่อให้ทางโรงแรมปรับปรุง และบางข้อความก็เป็นการชมสลับสับเปลี่ยนกันไปนอกจากนั้นจะมีบางข้อความที่เป็นการเปรียบเทียบกับโรงแรมอื่นซึ่งในมุมของผู้บริโภคสามารถทำได้และมองว่าไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาทโรงแรมแต่อย่างใด ตนเองมองว่าการที่โรงแรมส่งหนังสือเตือนและให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นการทำเกินกว่าเหตุ

นายษิทรา มองว่าหากมีการฟ้องร้องกันจริงก็ไม่น่าเป็นกังวลเพราะผู้บริโภคสามารถแสดงความคิดเห็นกับสถานบริการที่เข้าใช้จริงได้ ซึ่งตนเองก็จะเข้าไปช่วยคดีนี้ด้วย

อนุทิน ชี้ 7-10 วันตัวเลขผู้ป่วยจะเริ่มชัด

แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ยังเป็นข้อสังเกตคือลูกค้าไม่ได้ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงหรือเปิดเผยตัวตนในการแสดงความคิดเห็นบนแอปพลิเคชันจองที่พัก แต่ทำไมทางโรงแรมถึงรู้ว่าใครเป็นผู้รีวิวแสดงความคิดเห็นและส่งเอกสารเตือนตรงตามที่อยู่  ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลหากมีการนำไปเปิดเผยจะถือว่ามีความผิด ในส่วนนี้แอปพลิเคชันจะต้องออกมาชี้แจงด้วย

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ