หนุ่มสุดช้ำ แฟนสาวม้งโดนชายอื่นฉุด บังคับแต่งงานตามประเพณี ฝ่ายหญิงโพสต์โต้ไม่จริง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเผยแพร่ประสบการณ์ของตนเอง ผ่านเฟซบุ๊ก เล่าว่าคบหาสาวม้งมาเป็นเวลา 2 ปี แต่ไม่นานมานี้ฝ่ายหญิงหยุดกลับบ้านได้ 10 วัน ปรากฎว่ามีชายขาวม้งมาฉุด ลักพาตัวไปข่มขืน ทำให้ฝ่ายหญิงต้องแต่งงานด้วยตามประเพณี ก็เลยอัดคลิปไลฟ์เล่าเรื่องราวเป็นอุทาหรณ์

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปวิดีโอที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “เต๋า เหงาๆ” เผยแพร่วันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ไลฟ์เล่าเหตุการณ์ว่า ได้เดินทางไป จ.ตาก เพื่อไปหาสาวม้งที่คบหากันประมาณ 2 ปี หลังจากน้องสาวของฝ่ายหญิงแจ้งข่าวว่า แฟนถูกหนุ่มชาวม้งฉุดไป ต้องแต่งงานตามประเพณี ก่อนที่แฟนสาวจะส่งข้อความกับมาว่าไม่สามารถกลับไปคบหากับตนได้แล้ว

สาวร่ำไห้ ซ่อมรถ 9 เดือน อู่ทำพังทั้งคัน ด้านอู่ แจงช่างทิ้งงาน หาผู้รับเหมาให้แล้ว

เศรษฐีใหม่ !! พ่อค้ากุ้งถูกรางวัลที่ 1 ชุด 5 ใบ รับเงิน 30 ล้านบาท

โดยเมื่อฝ่ายชายมาถึงหมู่บ้านของหญิงสาว เจ้าหน้าที่และชาวบ้านหลายฝ่ายตั้งโต๊ะเจรจา จนฝ่ายหญิงบอกว่าเลือกหนุ่มชาวม้ง ทำให้นายเต๋าลุกเดินออกจากวงเจรจาทันที และจากนั้นเขาได้อัดคลิปลงในแอปพลิเคชัน Tik Tok ตัดพ้อกรณีที่เกิดขึ้น และตั้งคำถามถึงประเพณีการฉุดของชาวม้ง

ล่าสุดเวลา 9.00 น. วันนี้ ฝ่ายสาวชาวม้งโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กของตนเองเช่นกัน ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกลากไปข่มขืน หรือทำร้ายร่างกายอย่างที่ถูกพาดพิง โดยเต็มใจแต่งงานกับหนุ่มชาวม้ง เพราะมีความชัดเจนที่อยากแต่งงานด้วยกับตน ทำให้ใจอ่อน ส่วนกรณีฝ่ายชายบอกว่า ส่งเสียตนเรียนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะหาเงินเรียนด้วยตัวเอง มีเงินเก็บของตัวเอง พร้อมบอกว่าฝ่ายชายไทยยังเป็นหนี้ตนเองอีก 1 หมื่น และยังขู่จะฆ่าพ่อแม่ของตน ทำให้เป็นเหตุผลที่ไม่เลือกหนุ่มชายไทย

โดยสาวชาวม้ง ระบุอีกอีกว่า เตรียมที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนที่มาคอมเม้นต์ใส่ร้ายป้ายสีให้เกิดความเสียหาย โดยตามหาทนายดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม หลังจากสาวชาวม้งโพสต์ ในเวลาต่อมามีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นตั้งคำถามเรื่องภาพแชทที่เธอเคยบอกฝ่ายชายว่าต้องทำตามประเพณี จนกระทั่งเวลา 13.00 น. ทีมข่าวเข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊กสาวชาวม้งอีกครั้ง กลับไม่พบโพสต์ชี้แจงดังกล่าวแล้ว ทีมข่าวพยายามติดต่อทางแชทเฟซบุ๊กตั้งแต่เช้า แต่สาวชาวม้งไม่อ่านข้อความ และเมื่อติดต่อทางโทรศัพท์ในช่วงบ่าย ปรากฏว่าปิดเครื่อง

ทั้งนี้ทีมข่าวจึงย้อนไปพูดคุยกับ นายเต๋า อายุ 26 ปี เปิดเผยว่า คบหากับสาวชาวม้งมาได้ 2 ปี โดยอาศัยอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพมหานคร แต่เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงเดินทางกลับบ้านที่หมู่บ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก มีการพูดคุยกันทุกวัน โดยวันที่ 15 ม.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. ฝ่ายหญิงยังส่งข้อความมาบอกว่าคิดถึง จากนั้น ก็มีการโทรศัพท์พูดคุยกัน ฝ่ายหญิงยังบอกว่ากำลังจะซื้อตั๋วกลับกรุงเทพ จากนั้นเมื่อตนเองติดต่อกลับไปในเวลาประมาณ 15.00 น. ปรากฏว่าติดต่อฝ่ายหญิงไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งประมาณ 22.00 น. น้องสาวของแฟนทักแชทมา และแจ้งว่าแฟนถูกฉุด ทำให้ตนเองตัดสินใจขับรถจากกรุงเทพมหานคร ไปที่หมู่บ้านของแฟนในจังหวัดตากทันที ระหว่างนั้นพ่อแม่ของแฟนติดต่อกลับมา ยืนยันว่าแฟนสาวเต็มใจไปกับหนุ่มม้ง ไม่ได้ถูกฉุด แต่ตนเองไม่ปักใจเชื่อ ยืนยันว่าต้องได้ยินจากปากแฟนสาวก่อน

นายเต๋า เล่าต่อว่า เดินทางมาถึงหมู่บ้านของแฟนสาว วันที่ 16 ม.ค. เวลา 7.00 น. แต่ครอบครัวไม่ยอมพาแฟนมาพบ กว่าจะได้คุยกันก็เป็นเวลา 15.00 น. จนเกิดเหตุการณ์ตามคลิปที่ฝ่ายหญิงปฏิเสธตนเอง อย่างไรก็ตาม หลังฝ่ายหญิงออกมาโพสต์ชี้แจง ก็เคารพในการตัดสินใจ แม้จะไม่ปักใจเชื่อว่าแต่งงานกับหนุ่มม้ง เพราะความรักจริง ๆ โดยกรณีที่สางม้งอ้างว่าไม่เลือกตน เพราะเคยขู่ฆ่าพ่อแม่นั้น นายเต๋า ยอมรับว่า มีการพูดในเชิงขู่จริง เป็นเพราะอารมณ์โกรธในขณะนั้น จากการที่มาถึงหมู่บ้านแล้วถูกกันไม่ให้พบแฟนสาว ส่วนเรื่องที่ฝ่ายหญิงบอกว่าตนไม่ได้ช่วยส่งเสียนั้น ยืนยันว่ามีการให้เงินช่วยเหลือฝ่ายหญิง ระหว่างที่คบกัน

วิธีใช้ “ชุดตรวจ ATK” ด้วยตนเอง เพื่อความถูกต้องแม่นยำในเบื้องต้น

8 อาการติด "โอมิครอน" สธ.ชี้ เกินครึ่งไม่แสดงอาการ

ทีมข่าวพีพีทีวีนำประเด็นนี้ไปสอบถาม ผศ.ดร.สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ นักวิชาการด้านชาติพันธุ์ อาจารย์สาขาการจัดการภูมิวัฒนธรรม วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มศว ระบุว่า ส่วนตัวไม่กล้าฟันธงว่าการตัดสินใจของฝ่ายหญิง มาจากความรู้สึกส่วนตัว หรือมีเรื่องของประเพณีม้งมาเกี่ยวข้อง โดยประเพณีการฉุดของชาวม้ง ไม่ใช่ว่าจะฉุดใครก็ได้ แต่มีข้อกำหนดอยู่ โดยในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนประเพณีดังกล่าวเข้ากับยุคสมัย ในบางพื้นที่ไม่มีประเพณีการฉุดแล้ว ส่วนบางพื้นที่ที่ยังคงประเพณีนี้อยู่ ก็มีการวางข้อกำหนดร่วมกันว่า ต้องฉุดคนที่รักใคร่ชอบพอกันมาก่อนเท่านั้น ห้ามฉุดเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และการฉุดต้องเป็นที่รับรู้ของครอบครัว เพิ่มเติมมาจากข้อกำหนดตามประเพณีดั้งเดิมซึ่งมีหลายประการ เช่น ห้ามฉุดในที่ลับ ห้ามใช้ความรุนแรง ซึ่งในระหว่างกระบวนการฉุดก็มีหลายขั้นตอนที่เปิดทางให้ฝ่ายหญิงสามารถปฏิเสธได้ หากไม่เต็มใจไปกับฝ่ายชาย

 

 

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ