สภาพหลังจากที่รถเมล์ชนกัน โดยรถคันแรกเป็นรถเมล์ปรับอากาศ สีน้ำเงิน สาย 22 ถูกรถเมล์ธรรมดาสีแดง สาย 45 ชนอัดท้าย จนหน้ารถและหลังรถพังยับเยิน มีเศษกระจกและเศษเหล็กตกตามพื้น โครงรถและล้อเบี้ยวไม่สามารถขับต่อได้ทั้งสองคัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและคนเก็บขยะจาก กทม.ต้องช่วยกันนำตัวผู้บาดเจ็บหลายคนไปส่งโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่พบว่าจุดเกิดเหตุคือป้ายรถเมล์ บนถนนพระราม 4 ขาออกมุ่งหน้าสู่พระโขนง ซึ่งเป็นถนน 3 เลน ห่างจากสี่แยกกล้วยน้ำไทประมาณ 300 เมตร
นนทบุรี เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มกระตุ้น วันที่ 21-24 ม.ค.
วิจัยสหรัฐฯ พบสารสกัด CBD จากกัญชา ยับยั้งโควิด-19 ในเซลล์คนและหนูได้
คนเห็นเหตุการณ์นี้ เป็น รปภ.ประจำอพาร์ตเมนต์หลังป้ายรถเมล์ ชื่อว่านายบุญเลี้ยง บุตรดีคำ เปิดเผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 9 โมงเช้าที่ผ่านมา รถเมล์ปรับอากาศ สาย 22 อยู่ในเลนซ้ายสุด กำลังชะลอจอดรับผู้โดยสาร รถเมล์สาย 45 ซึ่งขับอยู่เลนกลาง ขับมาด้วยความเร็ว เบรกกะทันหัน แต่ถนนลื่น รถไถลไปอัดท้ายรถเมล์สาย 22 อย่างแรง
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและพนักงานกวาดขยะ กทม. เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที โดยกระเป๋ารถเมล์ สาย 45 คนที่เข้ามาชน กระเป๋ารถเมล์โดนเหล็กที่เบาะนั่งกระแทกหน้าฟันหัก ส่วนผู้โดยสารคนอื่นได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 7 คน ส่วนใหญ่ได้รับแรงกระแทก ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทำให้น่ากังวลเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ นายบุญเลี้ยงบอกว่าปกติถนนเส้นนี้ มีอุบัติเหตุเป็นประจำอยู่แล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้กับแยกที่ตัดไปถนนสุขุมวิท ถนนแคบ และมีจุดกลับรถอยู่ใกล้ๆ หากขับไม่ระมัดระวังจะเกิดอุบัติเหตุได้
ด้าน นายสุชิญ ประณิธานวิทยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตเดินรถที่ 4 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก. ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยตนเอง เปิดเผยว่าจากการสอบสวนคนขับ ยืนยันว่าไม่ได้ขับรถเร็ว แต่เป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ถนนลื่น และรถก็มีอายุการใช้งานมาก สาย 45 อายุ 28 ปี สาย 22 อายุ 30 ปี มองว่าทำให้ความปลอดภัยต่ำลง แต่ไม่สามารถดำเนินการซื้อใหม่ได้ เนื่องจากไม่มีงบประมาณ หลังจากนี้ตัวรถที่ถูกชน จะถูกนำไปซ่อมเพื่อกลับมาใช้งานใหม่ อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง
