ผู้ป่วยโควิด-19 คนนี้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากสายด่วน 1330 โทรเข้ามาสอบถามอาการ หลังเขาต้องรอให้เจ้าหน้าที่ติอต่อกลับแล้ว 2 วัน แต่ยังไม่ได้คุยกับแพทย์ และยังไม่มีการสอบถามอาการป่วย หรือ ได้รับยารักษา คลิปดังกล่าวถ่ายโดยนายอติ บุญเสริม นักข่าวพีพีทีวี ซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้เสี่ยงสูง เพราะครอบครัวติดโควิด และยังต้องอาศัยอยู่ภายในห้องเดียวกัน
โดยคนในครอบครัวของนายอติ เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ และมีผลตรวจ ATK และ RT-PCR เป็นบวก คือติดเชื้อโควิด เมื่อ23 กุมภาพันธ์
“โควิดวันนี้” – มองประเทศไทยปี 2564 ผ่านคำค้นยอดฮิตบน Google
ปฏิบัติการ 1330 รับสายผู้ป่วยโควิด
ทันทีที่รู้ผลมีการติดต่อลงทะเบียน ผ่านสายด่วน 1330 เพื่อรักษาแบบ Home Isolation แต่โทรไม่ติด จึงลงทะเบียนผ่านไลน์ และเว็บไซต์ของสปสช.
จากนั้น ช่วงสายวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สปสช.ติดต่อกลับมา แจ้งว่า ประสานหน่วยงานในจ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ป่วยอยู่ให้แล้ว แต่ก็เงียบไปอีก ไม่มีการติดต่อกลับ และยังไม่ได้รับยา ระหว่างนี้ผู้ป่วยไอหนักขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้ป่วยตัดสินใจโทรไปที่ 1330 อีกครั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ประสานโรงพยายาลในจังหวัดแล้ว และให้รอรถมารับไปเอ็กซเรย์ปอด และพบแพทย์ แล้วกลับมาทำ HI เหมือนเดิม แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการรอ ยังไม่ได้ดำเนินการใดใด ทำได้เพียง หายากินเอง เช่น ยาแก้ไข และฟ้าทะลายโจร
คุณอติ เล่าว่า นอกจากจะกังวลว่า ตัวเองจะติดเชื้อเพราะอยู่ร่วมกับผู้ป่วย ตอนนี้ยังกังวลว่าผู้ป่วยซึ่งเป็นคนในครอบครัว อาการจะแย่ลง และยิ่งเข้าถึงระบบการรักษาได้ช้า หากอาการเริ่มรุนแรง จะต้องทำอย่างไรต่อ นอกจากนี้ยังสะท้อนปัญหาการโทรเบอร์ 1330 ว่า โทรยากจนท้อ
หากดูตามแนวทางรับผู้ป่วยโควิดเข้าระบบของกรมการแพทย์ ในการระบาดระลอกนี้ เมื่อตรวจ ATK พบว่าติดเชื้อ ไม่จำเป็นต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ ตามขั้นตอนให้โทร 1330 หรือลงทะเบียนผ่านไลน์ สปสช. หรือ จะโทรผ่านคอลเซนเตอร์แต่ละจังหวัด ก็จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ประเมินอาการ หากเป็นกลุ่มสีเขียว จะให้รับการรักษาแบบ HI หากทำไม่ได้ จะส่งไปต่อรักษาที่ Community Isolation หรือ CI แต่ถ้าอาการแย่ลงฏ็จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาล ส่วนคนที่ตรวจ ATK เป็นบวก แต่เริ่มมีอาการหนักให้โทรติดต่อที่ 1669 ได้ทันที
แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนี้ เพราะเมื่อตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวก แค่โทรหาสายด่วน 1330 ก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ หมายความว่า กระบวนการไม่สามารถไปต่อได้
นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ยอมรับว่า สายด่วน 1330 มีปัญหาจริง เพราะผู้ป่วยโทรเข้ามาเยอะมาก และเคยโทรมาสูงสุดเมื่อวันก่อนถึง 50,000 ครั้ง
ส่วนที่พบปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่ได้โทรกลับ เป็นเพราะ ผู้ป่วยบางส่วนลงทะเบียนในช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลานอกราชการ แนะนำว่า หากโทร 1330 ไม่ติด ให้สายด่วน EOC ของกทม. ซึ่งมีทุกเขตอีกช่องทางหนึ่ง หรือหากเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินให้โทรหา 1669 แทน ยืนยันว่า อยากให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดี ทันเวลา แต่ก็อยากให้เป็นไปด้วยความจำเป็น
นอกจากนี้รองอธิบดียังบอกอีกว่า ผู้ป่วยโควิดที่กักตัวที่บ้าน หลังจากนี้จะไม่มีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์แล้ว เนื่องจาก หากอาการไม่หนัก สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องกินยา
ขณะที่แนวทางแก้ไขล่าสุด มี 4 แนวทาง คือ เพิ่มคนทำงาน ภาคเอกชนจะส่งคนเข้ามาช่วยรับโทรศัพท์เพิ่มทำระบบคัดกรองอัตโนมัติด้วยคอมพิวเตอร์ และเพิ่มเครือข่ายคลินิกชุมชน ซึ่งจะสามารถรับผู้ป่วยจาก 1,000 คน เป็น 1,500 คน
ส่วน สปสช. ปรับรูปแบบให้แอดไลน์แทน และจะโอนสายไปยังหน่วยบริการอื่นตามสิทธิ์ รวมถึงเพิ่มผู้คนรับสายอีก 150 คน รวม 600 คน และจะลดเวลาคุยต่อสายจากเดิม 8-9 นาที ให้เหลือ 5 นาที ใช้คำถาม 5 คำถาม รวบรัดการสอบถามข้อมูล เพื่อลงทะเบียนให้เร็วที่สุด
