ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่ทางม้าลายด้านหน้าสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จุดที่คุณหมอกระต่าย ถูกบิ๊กไบค์ชนเสียชีวิต แม้จะผ่านมานานหลาย เดือนแล้ว จะเห็นว่าสภาพของทางม้าลายจุดนี้ก็เปลี่ยนไปจากเดิมมากพอสมควร เนื่องจากได้มีการปรับปรุงใหม่ มีการติดตั้งสัญญาณไฟคนข้าม ทาสีทางม้าลายด้วยสีแดงเพื่อให้ผู้ใช้รถมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมกับปรับพื้นผิวถนนให้มีเส้นนูนสีขาวระยะทางประมาณ 10 เมตร เพื่อช่วยชะลอความเร็วรถ พร้อมๆ ไปกับการรณรงค์หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย
เครือข่ายลดอุบัติเหตุ ชี้ วัฒนธรรมคนไทยไม่ให้ความสำคัญคนข้ามถนน
เจอคุก 1 ปี 15 วัน ไม่รออาญา “ส.ต.ต.” ซิ่งบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย”
แต่ก็ดูเหมือนว่าสภาพการณ์ก็ไม่ได้ต่างจากเดิม ทางม้าลายจุดนี้ยังเป็นจุดเสี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้อยู่ตลอด
“ทนายเดชา” ฉะเดือด “หมอพรทิพย์” ไม่เกี่ยวข้องอย่ามายุ่งคดีแตงโม
ทีมข่าวได้ทดลองข้ามทางม้าลาย กดสัญญาณไฟคนข้ามและลองข้ามจากฝั่งสถาบันโรคไตไปยังอีกฝั่ง และข้ามกลับมา จุดเดิม ปรากฎว่า ระหว่างที่ข้ามยังมีรถมอเตอร์ไซด์และรถยนต์บางคันไม่ยอมหยุดรถให้ข้ามทั้งๆที่มีสัญญาณไฟชัดเจน รถยนต์จำนวนมากจอดทับทางม้าลาย บางคันก็หยุดกระทันหัน และรถมอเตอร์ไซด์หลายคันยังลักกลับรถบนเกาะกลางถนนจุรอสัญญาณไฟทีมข่าวเกือบจะถูกเฉี่ยวจากด้านหลัง
เท่าที่คุยกับแหล่งข่าว วินมอเตอร์ไซด์รับจ้างรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า จริงๆแล้วบริเวณเกาะกลางจุดรอสัญญาณไฟจุดนี้ ทางสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร เคยติดตั้งเหล็กกั้นตรงกลางเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่มีประชาชนร้องเรียนว่าข้ามทางม้าลายไม่สะดวกจึงมีการถอดออกไป จึงกลายเป็นช่องโหว่ทำให้ให้มอเตอร์ไซด์จำนวนมากทำพฤติกรรมมักง่าย ใช้เป็นทางลักกลับรถมาอีกฝั่งอยู่ตลอดเวลา
จนถึงวันนี้นับตั้งแต่เหตุการณ์สูญเสียคุณหมอกระต่าย สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ต่อให้ปรับปรุงทางม้าลายดีแค่ไหน ถ้าคนใช้รถใช้ถนนยังขาดสำนึกรับผิดชอบ ทางม้าลายก็ไม่มีวันปลอดภัย และคุณหมอกระตายคงไม่ใช่รายสุดท้าย
เหยื่อร้องถูก“อดีต ผกก.”อมค่าสินไหมคดีรถชน 1.5 ล้าน
