
"พระพยอม" แนะตรวจสอบลูกศิษย์ "หลวงปู่แสง"
เผยแพร่
ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ถึงการปฏิบัติตัวที่ไม่เหมาะสม และไม่ปกป้องหลวงปู่แสงได้ดีพอจากพระเลขาฯ หรือ คนใกล้ชิดนั้น ล่าสุด ลูกศิษย์คนสนิทของ “พระพยอม กัลยาโณ” ให้ข้อมูลกับ คุณเอกรัฐ ผู้สื่อข่าว พีพีทีวีว่า บทบาทของคนใกล้ชิดพระผู้ใหญ่ ถือว่าสำคัญมาก เพราะกระบวนการดิสเครดิต ในแวดวงสงฆ์ มีอยู่จริง แต่ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของพระแต่ละรูปโดยส่วนตัวด้วย
นายหมี (ขอสงวนนามสกุล) ศิษย์เอกพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว บอกกับทีมข่าว พีพีทีวีว่า จากประสบการณ์ตรงที่ผ่านมา ถือว่า พระเลขาฯ ลูกศิษย์ลูกหา มีบทบาทสำคัญมาก ในการดูแลพระชั้นผู้ใหญ่ ที่สังคมให้ความเคารพนับถือ ซึ่งโดยปกติแล้ว กระบวนการในการดูแลนั้น หลักๆแล้วจะปล่อยให้เป็นกิจของหลวงพ่อพยอมโดยตรง โดยจะทำหน้าที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ เหตุเพราะตัวท่านเอง เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม ว่าไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย และระมัดระวังเรื่องนี้เป็นที่ตั้ง
เผยประวัติ "หลวงปู่แสง ญาณวโร" พระเกจิดัง สายหลวงปู่มั่น หลังหมอปลาเปิดคลิปฉาว
หมอปลา บุกจับ เกจิดังอ้างจับของลับรักษาโรค
แต่หากจะถามถึงกระบวนการการดูแลเป็นขั้นเป็นตอนที่วางเอาไว้นั้น ยอมรับว่าต้องมี เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ หรือกระบวนการดิสเครดิต โดยเฉพาะในช่วงที่ลูกศิษย์ลูกหา ฆราวาส เดินทางมากราบหลวงพ่อเป็นจำนวนมากในวันสำคัญทางศาสนา หรือในช่วงที่มีประเด็นในแวดวงสงฆ์หรือการเมืองอันร้อนแรง
เมื่อถามว่าเคยมีเหตุการณ์ในลักษณะที่ต้องการสร้างความเสียหาย หรือ ดิสเครดิต โดยตรงหรือไม่ ศิษย์เอกพระพยอมรายนี้ ยอมรับว่า “มี” แต่อย่างที่ย้ำ ว่า ด้วยความที่หลวงพ่อท่านครองตนเป็นอย่างดี จึงไม่เคยปรากฏเรื่องราวในลักษณะนี้
ขณะที่ พระพยอม กัลยาโน เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า หากตรวจสอบพระธรรมวินัยนั้น ไม่ว่าข้อใด พระก็ไม่สามารถแตะต้องตัวสีกาได้ แต่ลูกศิษย์หลวงปู่แสง ควรจะถูกตรวจสอบเช่นกัน เพราะไม่ควรปล่อยให้หลวงปู่แสง ซึ่งแก่พรรษามากแล้วออกมารับกิจนิมนต์แบบนี้ จนนำไปสู่ความผิดพลาด
โดย “พระพยอม กัลยาโณ” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว บอกกับคุณเอกรัฐ ผู้สื่อข่าวพีพีทีวี ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่แสง นั้น ก็ต้องยอมรับ ว่าถ้ายึดตามพระธรรมวินัยโดยแท้ พระ จะไม่สามารถแตะต้องตัวสีกาได้อยู่แล้ว หรือถ้าจะยืนยันถึงความเป็น พระอรหันต์ จริงๆ ก็มองว่า ต้องรักษาพระธรรมวินัย ยิ่งกว่าพระธรรมดาเสียด้วยซ้ำ มิฉะนั้น ลูกศิษย์ลูกหา ญาติโยม ก็จะปฏิบัติตามในเส้นทางผิดๆกัน ต่อไป
อย่างไรก็ตาม พระยอมได้ตั้งคำถามไปยังบรรดาลูกศิษย์ พระคนสนิท หรือพระเลขาฯ ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้หลวงปู่แสง ซึ่งอายุมาก แก่พรรษาแล้ว รับกิจนิมนต์อันสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความพลาดแบบนี้ขึ้นได้ และเหตุใดจึงปล่อยให้สีกา หรือ สุภาพสตรี เข้าไปใกล้หลวงพ่อ แทนที่จะหยุด หรือ ห้ามไว้ จนเกิดความผิดพลาด และเสื่อมเสียเกิดขึ้น ดังนั้น ลูกศิษย์ คนสนิท หลวงปู่ ควรถูกตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วยอย่างยิ่ง
ส่วนอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือสังคมกำลังตั้งคำถามถึงกระบวนการดิสเครดิต หรือแสวงหาประโยชน์ จากพระชั้นอยู่ใหญ่ ว่ามีอยู่จริงหรือไม่นั้น พระพยอม ยอมรับกับคุณเอกรัฐว่า “มันมีอยู่จริง” พร้อมยกตัวอย่าง เคยมีประเด็นแบบนี้ ในช่วงที่หลวงพ่อมีข้อพิพาทกับ อดีตพระยันตระเมื่อสิบกว่าปีก่อน มีทั้งการส่งลูกน้องคนสนิทตามประกบ หรือ กระทั่งใช้วิธีการส่ง “สีกา” วางแผนแบล็คเมล์ แอบอัดเสียงคุยกับหลวงพ่อ และปล่อยเสียงไปยังสื่อมวลชน ก็เคยประสบมาแล้วเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ รูปแบบคำสอน ความเชื่อ และการครองตนองพระแต่ละรูปด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ พระพยอม ยังได้พูดถึงการตั้งคำถามจากสังคมถึงการทำงานของสำนักพุทธฯ ที่หละหลวม จนทำให้เกิดปฏิบัติการของ “หมอปลา” ตามมาด้วยหรือไม่ ด้านพระพยอม ตอบสั้นๆว่า “เขาตั้งมาโดยมีหน้าที่เขียนไว้ว่า ทำนุบำรุง ส่งเสริม.. เลยคงไม่กล้าตรวจสอบล่ะมั้ง ท่านทิ้งท้ายว่า อาตมา ไม่อยากพูดแล้ว
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline