ชาวบ้านบริเวณชุมชนหน้าปากทางเข้าวัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พาผู้สื่อข่าวไปสำรวจผนังอาคารพาณิชย์ 18 หลังซึ่งมีลักษณะแตกร้าว ทั้งด้านในและด้านนอกอาคาร
นายสันต์ ศรีเจริญ เจ้าของอาคารหลังหนึ่งเล่าว่า สาเหตุมาจากบริษัทของนักลงทุนชาวไต้หวันได้เข้ามาตอกเสาเข็มเพื่อก่อสร้างอาคารลักษณะโดมสูงเพื่อใช้เป็นคลังเก็บสินค้าเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ครู-นร.เศร้า อาคาเรียนร้าว ต้องย้ายเด็กไปเรียนอาคารอื่น
ปลดป้ายหลอน คอนโดฟ้องกลับโกดัง 100 ล้าน
โดยทราบว่าการตอกเสาเข็มมีความลึกถึง 24 เมตร จนต้องใช้เสาเข็มขนาด 12 เมตรตอกซ้อนกันถึง 2 ต้น ต่อ 1 จุด รวม 387 จุด ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจากการตอกเสาเข็มลึกถึง 2 ชั้นกระทบถึงตัวอาคารพาณิชย์ที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งที่ยังเป็นอาคารใหม่ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จมาได้เพียง 5 ปีเท่านั้น ทำให้ทั้งผนังตึก เสาชานชายคา และกันสาด รวมถึงพื้นของตึกเกิดแตกร้าว
แต่หลังชาวบ้านแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบ พร้อมกับทาง อบต.คลองนา ทางผู้ประกอบการกลับบอกว่าจะมาซ่อมแซมให้ด้วยวิธีการยาแนวรอยแตกร้าวให้ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจ เพราะเหมือนทำในลักษณะลูบหน้าปะจมูก เนื่องจากตัวอาคารเมื่อมีรอยร้าวแล้ว มูลค่าก็จะลดลงเสียหายจากเดิมที่ชาวบ้านซื้อมาในราคา 4-5 ล้านบาทเมื่อ 5 ปีก่อนราคาก็จะตกลง โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ห้ามหรือคัดค้านไม่ให้เขาทำการก่อสร้าง แต่อยากให้เขาเลือกใช้เสาเข็มแบบเจาะที่ชาวบ้านจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า แต่ทาง อบต.คลองนา บอกว่า เขาขออนุญาตก่อสร้างมาอย่างถูกต้องตามแบบจะไปบังคับเขาให้หยุดไม่ได้
ด้าน น.ส.สุวรรณ คงโฉลง เล่าว่า นอกจากตัวตึกจะแตกร้าวแล้ว ตนยังได้รับผลกระทบจากเรื่องเสียงดังและแรงสะเทือน เพราะตนทำงานในเวลากลางคืนเพื่อไปขายในตลาดเช้ามืดที่ อ.บางปะกง ตั้งแต่เที่ยงคืน เมื่อขายของกลับมาพักผ่อนในเวลาเที่ยงวัน ได้ยินเสียงดังสนั่น ก็นอนไม่ได้ โดยการก่อสร้างไม่เคยมีการมาสอบถามหรือแจ้งแก่ประชาชนในพื้นที่ ทั้งที่เป็นโซนพื้นที่สีเขียวเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
ชาวบ้านบอกว่า เคยแจ้งปัญหาไปตั้งแต่ 15 มิ.ย. จากนั้น 19 มิ.ย. มีเจ้าหน้าที่ อบต.เข้ามาดู แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ และมาดูอีกครั้งเมื่อ 22 มิ.ย. ก็บอกว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบ จนเมื่อวาน 23 มิ.ย. นายก อบต. พร้อมคณะก็มาอีก ก็ยังบอกว่ากำลังตรวจสอบเหมือนเดิม
ล่าสุดทีมข่าวโทรศัพท์ตรวจสอบไปศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทราให้ข้อมูลว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนไปประสานไปยังโยธาธิการจังหวัดและอบต.เร่งแก้ปัญหาแล้ว
