พระอาจารย์ธวัชชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา เป็นหนึ่งในพระคู่กรณีกับพระชาตรี ที่เคยมีคดีฟ้องร้องกัน แต่ตอนนี้คดีจบแล้วเพราะไกล่เกลี่ยเจรจากัน แต่หากไล่ดูว่า ทะเลาะอะไรกัน ทำไมกลายเป็นคดีความ
พระอาจารย์ธวัชชัย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า รู้จักกับพระชาตรี มานานแล้ว ช่วง ปี 2558 พระชาตรีกลับมาจากรัสเซีย อ้างว่า หนีหนาวกลับมาอยู่ไทย จากนั้นมาขอจำวัดที่ วัดพุทธปัญญา
ต่อมาไม่นาน เจ้าอาวาสรูปเก่า อายุกว่า 90 ปี ไม่มีแรง และ ป่วย ทำให้พระชาตรี อาศัยจังหวะนี้ ผลักดันให้ตัวเองขึ่นเป็นรักษาการเจ้าอาวาส
"อนันต์ชัย "ชี้ แจ้งความหมิ่น "แพรรี่" ไม่ได้
เจ้าคณะตำบลบางเขน ยันเรื่องจริง “พระชาตรี” เคยยักยอกเงินวัด จนถูกปลด
โดยช่วยนั้น พระในวัดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ สนับสนุนพระชาตรี และ สนันสนุนเจ้าอาวาสรูปก่อน โดยแตกหักขนาดว่า แยกกันสวดมนต์-ทำวัด
ส่วนจุดที่ทำให้ มีคดีความกัน คือ ช่วงก่อนเข้าพรรษา พระธวัชชัยเล่าว่า พระชาตรี ให้พระในอาณัติของตัวเองและลูกศิษย์ที่เป็นชายฉกรรจ์ เรียกพระในวัดไปประชุม ตอนกลางคืน
แต่พระหลายรูปไม่ไป ทำให้ พระในอาณัติของพระชาตรี และ ลูกศิษย์ที่เป็นชายฉกรรจ์ เดินตระเวนเรียกตามกุฎิ โดยใช้ความรุนแรง มีการถือไม้ ถืออาวุธ ข่มขู่
พระอาจารย์ธวัชชัย เล่าว่า มีพระ ถูกทำร้ายรวม 3 รูป โดยท่านเป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจาก พระที่อายุมากแล้ว หนีเข้ามาในกุฎิของพระอาจารย์ธวัชชัย
ส่วนพระหนุ่มบางรูป ปีนกำแพงหนี ออกไปนอกวัด ด้วยความกลัว โดยพระอาจารย์ธวัชชัย พาทีมข่าวไปดูจุดที่พระปีนกำแพงหนี พร้อมเล่าว่า พระชาตรี มักพาชายฉกรรจ์มาเป็นลูกศิษย์ และ มีพฤติกรรมเหมือนมาเฟีย คือ มีบอดี้การ์ด 5-6คน ล้อมหน้าล้อมหลัง ตลอดเวลา
หลังถูกทำร้าย พระอาจารย์ธวัชชัย ไปแจ้งความ โดยเหตุการณ์นี้เกิขึ้นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2558 โดยคดีดังกล่าว สิ้นสุดบนชั้นศาล พระชาตรี กล่าวขอโทษ จึงยอมความกัน ถัดจากนั้น อีก 3 วัน พระชาตรีก็ถูกสั่งปลดออกจากรักษาการเจ้าอาวาส
ทีมข่าวค้นข้อมูลของพระชาตรีในฐานระบบคดีในศาลจ.นนทบุรี พบว่าขณะนี้พระชาตรีถูกฟ้องร้องอยู่ในชั้นศาล 2คดี
1 คดีเกี่ยวกับเงินวัด เป็นคดีหมายเลขดำ อ4465/2558 คดีหมายเลขแดง อ2779/2560 ใน ข้อหา ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มีโจทก์ยื่นฟ้องคือ วัดพุทธปัญญา โดยมีนายปัญญา จารุมาศ เป็นผู้รับมอบอำนาจ
2 คดีหมายเลขดำ อ2084/2558 คดีหมายเลขแดง อ3656/2558 ข้อหา ตามพระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีโจทก์ยื่นฟ้องคือ พระสุธา ปะภัสโร ซึ่งขณะนี้ก็ยังเป็นพระในวัดพุทธปัญญาอยู่
สำหรับคดีนี้ พระอาจารย์ธวัชชัยให้ข้อมูลว่า ระหว่างที่พระชาตรีรักษาการเจ้าอาวาสที่วัดพุทธปัญญา มักมีพฤติกรรมติดกล้องวงจรปิดสอดส่องพระในวัดโดยเฉพาะพระที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่เชื่อฟัง ก่อนจะพบว่ามีพระรูปหนึ่งถูกนำภาพขณะอาบน้ำไปเปิดเผยในโซเชียลจนสืบทราบว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดของพระชาตรีจึงแจ้งความดำเนินคดี จนเรื่องถึงชั้นศาล
ส่วนการยักยอกเงิน วัดพุทธปัญญา พระอาจารย์ธวัชชัย บอกว่า ทุกคนทราบเรื่องหลังเหตุการณ์พระถูกทำร้าย เพราะ พระสังฆาธิการ ตำรวจ และเจ้าคณะตำบล มาประชุมและสั่งปลดพระชาตรีออกจากตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส จากนั้น มีการตรวจสอบบัญชีการเงิน พบว่า บัญชีเงินฝากของเจ้าคณะตำบล หายไป 4 ล้านบาท ขณะพระชาตรีดำรงตำแหน่งรักษาการเป็นระยะเวลา แค่ 3 เดือน
รวมถึงพบว่า ระหว่างการทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส มีการสั่งให้เปิดบัญชีธนาคารใหม่ ทั้งที่ไม่ได้จำเป็นต้องเปลี่ยนธนาคาร และ ตลอด 3เดือน ไม่ได้มีโครงการก่อสร้าง หรือ ซ่อมแซมใดใด แต่เงินหายไป
