เปิดใจ “ครูบาไก่” หลังปลงอาบัติ เตรียมปิดวาจา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังจากได้ทำพิธีปลงอาบัติกับพระอุปัชชาและพระผู้ใหญ่ กรณีเล่นน้ำตก และขี่เจ็ตสกีไปแล้ว วันนี้ “ครูบาไก่” ก็มีท่าทีสบายใจขึ้น พร้อมกับเปิดเผยว่าเตรียมเข้ากรรมปิดวาจา

วันนี้ 31 ม.ค. 2566 บรรยากาศที่วัดป่าปฐม อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น มีลูกศิษย์ และญาติโยมเดินทางมาถวายภัตราหาร และกราบไหว้ พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ “ครูบาไก่” อย่างไม่ขาดสาย

หลังรับภัตตาหารเสร็จ “ครูบาไก่” ก็ลงจากศาลา ไปป้อนอาหารให้ช้างพังแม่บัวนา โดยสังเกตได้ชัดว่า วันนี้ครูบาไก่ มีสีหน้าแจ่มใสกว่าที่ผ่านมา เมื่อผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์ในประเด็นต่างๆ ทาง “ครูบาไก่” ก็ปฏิเสธ โดยแจ้งว่าปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย จึงไม่อยากพูดอะไรมาก

"ครูบาไก่" ขอขมารับผิด-ปลงอาบัติ

ไร้เงา "ครูบาไก่" ชี้แจงปมมีสัมพันธ์ฉาวกับผู้ชาย ลูกศิษย์บอกติดกิจนิมนต์

ส่วนการขอขมาพระผู้ใหญ่ ตามภาพที่ปรากฏเมื่อวานนี้ เป็นการรับผิดข้อวินัยอาบัติ เรื่องสรงน้ำในลำธาร และนั่งเจ็ตสกีเล่นบานาน่าโบ๊ตต่อหน้าพระอุปัชฌาย์ พระผู้ปกครองคณะสงฆ์มัญจาคีรี เพื่อให้ตักเตือนและกล่าวโทษตามข้อพระวินัย ซึ่งได้ให้วาจาไว้ว่าจะไม่ทำให้ชาวโลกได้ติเตือนอีก กรณีนี้ถือเป็นโลกวัชชะ โลกติเตือน ซึ่งครูบาไก่ได้ปลงอาบัติเป็นปกติของสงฆ์ทุกวันพระอยู่แล้ว

แต่เมื่อกระแสสังคมเกิดขึ้นมากมาย เห็นว่าควรจะไปรับคำติเตือนจากพระผู้ใหญ่ และหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนความทางโลก ตั้งใจว่าจะไปปฎิบัติธรรมเข้ากรรม อาจปิดวาจาหรือปฎิบัติธรรมแล้วแต่ระยะเวลา

ในส่วนของการอาบัติดังกล่าว เป็นเพียงอาบัติปาจิตตีย์ไม่ถึงขั้นร้ายแรงที่จะต้องสึก โดยการอาบัติร้ายแรงที่จะต้องศึกและไม่สามารถกลับมาบวชอีกได้คือการประพฤติผิดใน 4 เรื่อง คือฆ่าคนตาย ลักทรัพย์ อวดอุตริและ เสพสังวาสหรือเสพกาม
แม้ว่า “ครูบาไก่” จะปลงอาบัติไปแล้ว แต่ก็ยังมีกำหนดที่จะต้องเข้าชี้แจงกับกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่ถูกร้องเรียน ในวันที่ 1 ก.พ. แต่ล่าสุดได้รับแจ้งว่า “ครูบาไก่” ติดภารกิจ ไม่สามารถเข้าชี้แจงได้

 ด้าน นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ส.ส.พรรคเพื่อชาติ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า แม้ครูบาไก่และทนายจะไม่เข้ามาชี้แจงก็ไม่มีผลต่อการพิจารณา และแม้ครูบาไก่ ได้ปลงอาบัติต่อหน้าพระอุปัชฌาย์ พระผู้ปกครองคณะสงฆ์มัญจาคีรี เพื่อให้ตักเตือนและกล่าวโทษตามข้อพระวินัยแล้ว แต่อาจจะไม่ได้สึกนั้น มองว่าสึกหรือไม่สึกไม่ได้สนใจ แต่หากหลักฐานชัดเจน ก็ตั้งคำถามว่าเหมาะสมกับสมณสารูปหรือไม่ ซึ่งต้องให้ฝ่ายสงฆ์เป็นผู้พิจารณาว่าสมควรหรือไม่

และย้ำว่าพระสงฆ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของสงฆ์ ซึ่งอยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมืองและพระวินัย.

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ