“พรรคการเมือง”ขอบคุณวงดีเบตพีพีทีวี เปิดโอกาสถกเนื้อหานโยบายที่เป็นประโยชน์


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บรรยากาศเวทีดีเบต “หลุมดำการศึกษาไทย” ที่หน้าสถานีโทรทัศน์ PPTV เมื่อเย็นวานที่ผ่านมา (31 มี.ค. 66) คึกคัก มีกองเชียร์ของ 6 พรรคการเมืองที่มาร่วมดีเบต ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ ก้าวไกล พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย มาให้กำลังใจ

โดยกติกาการดีเบต ให้ตัวแทนกลุ่มการศึกษา อาทิ “น้องเฟียน” เด็กที่มีภาวะบกพร่องด้านการเรียนรู้ (LD) แต่เป็นอัจฉริยะด้านดนตรี เยาวชนจากชุมชนแออัดเขตคลองเตย ผู้อำนวยโรงเรียน และผู้อำนวยการศูนย์การเรียน ฯลฯ พูดสะท้อนปัญหา ประเด็นสำคัญที่หลายคนสะท้อนบนเวทีคือปัญหาการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์ความสนใจของเด็ก และไม่ตอบโจทย์การนำไปใช้ในชีวิตจริง

ซึ่งตัวแทนจากทั้ง 6 พรรคการเมือง จับคู่กันประชันวิสัยทัศน์ ตอบปัญหาของกลุ่มการศึกษา และพูดถึงนโยบายของพรรคในการแก้ไขปัญหา ฟาดฟันนโยบายกันอย่างดุเดือด

เลือกตั้ง 2566 : เช็กหน่วยเลือกตั้ง - ตรวจสอบสิทธิเลือกตั้ง ง่ายๆ ไม่กี่คลิก!

เลือกตั้ง 2566 : "บิ๊กตู่" ไม่ตอบปม "ทักษิณ" กลับบ้าน ดีล "บิ๊กป้อม"

โดยตัวแทนจากทั้ง 6 พรรคการเมือง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากพรรคของตนเองได้เป็นรัฐบาล จะส่งเสริมให้การศึกษามีความหลากหลาย พร้อมยอมรับว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องผลักดัน แต่แตกต่างกันที่วิธีการ

ทีมข่าวพีพีทีวี สัมภาษณ์ความรู้สึกหลังงานของบรรดาตัวแทนพรรคที่มาร่วมดีเบต อาทิ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล กล่าวขอบคุณ PPTV ที่จัดดีเบตเฉพาะประเด็นเรื่องการศึกษา เพราะมองว่าเป็นประเด็นที่มีความสำคัญและไม่ได้ถูกถกเถียงมากนักในเวทีดีเบตการเลือกตั้ง

รวมถึงชื่นชมรูปแบบการดีเบต ที่เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบการศึกษา มาร่วมแสดงความคิดเห็นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพรรคก้าวไกลในการพิจารณาต่อ พร้อมบอกว่าตนเองรู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้สื่อสารนโยบายของพรรคฯ ไปยังประชาชนที่รับชมการดีเบต โดยตนเองเชื่อว่ายิ่งแต่ละพรรคนำเสนอนโยบายมากเท่าไหร่ คนที่ได้ประโยชน์ก็คือประชาชน

ขณะที่ ดร.กมล รอดคล้าย ทีมยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พรรคภูมิใจไทย มองว่า การที่พรรคการเมืองได้มาแลกเปลี่ยนนโยบายด้านการศึกษาเป็นเรื่องที่ดี โดยมองว่าทุกพรรคมีเจตนาดีในการทำงานเพื่อการศึกษา และสิ่งที่แต่ละพรรคเสนอก็เป็นนโยบายที่ดีทั้งหมด แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่ว่าทุกพรรคจะสามารถทำได้ เพราะพรรคที่สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ต้องเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเองก็หวังว่าพรรคที่ได้เป็นรัฐบาลในอนาคต จะนำข้อเสนอของพรรคอื่นๆ ไปร่วมพิจารณา

ด้าน รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “เรื่องการพัฒนาการศึกษา ผมว่า ไม่จำเป็นต้องมีพระเอกคนเดียว” พร้อมบอกว่า หลายพรรคการเมือง ก็มีนโยบายด้านการศึกษาของตัวเอง ส่วนรวมไทยสร้างชาติ อยากเริ่มต้นด้วยการให้ผู้นำแต่ละภาคส่วน ยอมรับความเก่งซึ่งกันและกัน และร่วมทีมกันพัฒนาการศึกษาให้ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมขอบคุณ PPTV และทุกๆ คนที่มาร่วมกันคิด พัฒนาการศึกษาไทย

ผศ.ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ คณะกรรมการจัดทำนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ มองว่า การที่พรรคการเมืองได้มาร่วมกันเสนอนโยบายและมุมมองต่างๆ ทำให้ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพราะนโยบายการศึกษาต้องร่วมมือกันทั้งหลายๆ พรรคการเมือง รวมถึงภาคประชาสังคมและเอกชน พร้อมพูดถึงกรณีที่ PPTV เชิญผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงมาสะท้อนปัญหา ทำให้ตนเองได้รับแรงบันดาลใจ และยิ่งย้ำว่าสิ่งที่พรรคฯ คิดมาถูกทาง แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเรื่องการศึกษาไม่มีใครสามารถทำคนเดียวได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าทุกคนช่วยกันทำจะทำให้การศึกษาดีขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เด็กทุกกลุ่มได้รับโอกาสและการสนับสนุนด้านการศึกษา

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ