3 ส.ค. 67 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำหนังสือด่วนไปถึงส่วนราชการ อำเภอทุกอำเภอและ อปท.ทุกแห่งในสังกัด ลงนามโดย นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยระบุว่า ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาตอนบน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนบบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและอ่าวตังเกี่ย
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง จะทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ และภาตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าน้ำไหลหลาก และดินถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอปางมะผ้า และอำเภอสบเมย ระหว่างวันที่ 2 - 8 ส.ค. 67
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ให้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์จากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ สภาวะอากาศและปัจจัยสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อประสานบูรณาการหน่วยงานพลเรือน ทหาร ตำรวจ เครือข่ายอาสาสมัครจิตอาสา ภาคเอกชนเตรียมพร้อมทรัพยากร แผนเผชิญเหตุ โดยให้ความสำคัญในการแจ้งเตือนพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการเช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอเตือนภัย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน
ด้านสำนักงานอุทกวิทยา บ้านท่าโป่งแดง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน (Sw.5A) ศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคเหนือตอนบน สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยากรมชลประทาน ได้รายงานผลการตรวจวัดระดับน้ำในแม่น้ำปาย ที่บ้านท่าโป่งแดงฯ เช้าวันที่ 3 ส.ค. 67 เวลา 06.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำปายวัดได้ 2.76 เมตร เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 67 เวลา 06.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำปายวัดได้ 3.43 เมตร ลดลง 0.67 เมตร
อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในลักษณะที่มีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรบางแห่งที่อยู่ในที่ลุ่มติดแม่น้ำปาย หากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องก็อาจจะส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตรที่อยู่ติดแม่น้ำปายได้
สำหรับพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เกิดฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 67 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินภูเขาสไลด์ลงปิดทับเส้นทางคมนาคม พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำหลากเข้าท่วมเสียหายจำนวนไม่น้อย บางพื้นที่ เกิดดินสไลด์ซ้ำซากต่อเนื่อง ต้องเฝ้าระวังจัดรถเครื่องจักรกลหนัก คอยเตรียมรับมือเพื่อเข้าไปแก้ไปปัญหาหากเกิดดินสไลด์ลงมาอีก