เช็กเที่ยวบิน "หญิงสมุทรสาคร" ออกทัวร์ "สุราษฎร์" เยี่ยมญาติ พาติดโควิดยกครัว ผู้ว่าฯซัดแรงมาทำไม!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สุราษฎร์ธานี ยกระดับสีส้ม คุมโควิด-19 เข้มงวด ผูู้ว่าฯแถลง "หญิงวัย 50 จากสมุทรสาคร" ออกทัวร์หลังจังหวัดคุมเข้ม บินเยี่ยมญาติ พาติดโควิดยกครัว แจงไทม์ไลน์เที่ยวบิน - สถานที่เสี่ยง

ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์  จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแพทย์มนู  ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด- 19 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย รอสอบสวนโรค 4 ราย 

เริ่ม 5 ม.ค. เปิดประกาศกทม.ข้อปฏิบัติ -ข้อยกเว้น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ แผงลอย ขู่ฝ่าฝืนสั่งห้ามกิน...

ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อในพื้นที่เมืองสุราษฎร์ธานี  1 ใน 7 เป็นคนสุมทรสาคร ที่กลับมาเยี่ยมญาติสุราษฎร์ฯ ก่อนพบเชื้อทั้งครอบครัว 

ผู้ว่าฯสุราษฎร์ฯ กล่าวว่า สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นหญิงไทย อายุ 50 ปี เป็นชาวจังหวัดสมุทรสาคร และได้เดินทางมาหาญาติที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

วันที่ 19 - 27 ธ.ค. 63 อาศัยบ้านอ.เมือง จ. สมุทรลาคร

วันที่ 28 ธ.ค. 63 เดินทางไปท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 13.25 น. จากดอนเมือง ไปจ.สุราษฎร์ธานี ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3239 ที่นั่งที่ 6 E จากนั้นนั่งรถส่วนตัวไปบ้านพี่สาว

วันที่ 29 ธ.ค.63 ไปตลาดศาลเจ้า อ.เมือง จ.สราษฎร์ธานี เวลาประมาณ 16.00-17.00 น.ใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยชื้ออาหารไปรับประทานที่บ้านพี่สาว จากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น. ไปรับประทานอาหารเย็น ร้านชาบู อ.ขนอม จ. นครศรีธรรมราช

วันที่ 30 ธ.ค.63 อาศัยบ้านพี่สาว อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

วันที่ 31 ธ.ค.63 เวลา 18:00-19:00 น.รับประทานอาหารร้านข้าวต้ม ตลาดศาลเจ้า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 

วันที่ 1 ม.ค.64 เวลา 15.00 น. - 16.00 น. รับประทานอาหารร้านชาบูชิ เซ็นทรัลฯ สุราษฎร์ธานี

วันที่ 2 ม.ค.64 เริ่มป่วย ไอ มีเสมหะ รักษา  รพ.เอกชนในจ.สุราษฎรธานี เก็บตัวอย่าง ส่งตรวจหาเชื้อ

วันที่ 3 ม.ค.64 ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ตามนำตัวญาติทั้งหมดที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านจำนวน 10 รายมาตรวจหาเชื้อที่รพ.สุราษฎร์ธานี พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกจำนวน 6 ราย ทีมแพทย์ได้แยกเข้ารักษาดูอาการในห้องความดันลบ และอีก 4 รายต้องรอผลสอบสวนโรค 

นายวิชวุทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ผู้ป่วยรายนี้จะเข้ามาในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่ออะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่า มาจากพื้นที่สีแดง ซึ่งถ้าว่าเป็นการเข้ามาทำลายความหวัง และความสุขของชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ไม่พบเชื้อนานกว่า 12 วัน แต่ผู้ป่วยรายนี้กลับนำเชื้อมาในแพร่ในพื้นที่อีกครั้ง ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมและคนจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างที่สุด 

นายวิชวุทย์ กล่าวเพิ่มว่า ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ป่วยได้มาอยู่กับญาติซึ่งเป็นกลุ่มเล็ก และตรวจสอบไทม์ไลน์ ที่ตรวจสอบได้อย่างชัดเจนทั้งนี้ทางจังหวัดได้มีการจัดตั้งจุดคัดกรองทั่วจังหวัดจำนวน 12 จุด และมีทีมเคลื่อนที่เร็วจำนวน 21 ชุด ในกรณีพบผู้ที่เข้าข่าย ในส่วนของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยโดยมีห้องแยกความดันลบจำนวน 20 ห้อง ห้องแยกเดี่ยวจำนวน 16 ห้อง และมีโรงพยาบาลสนาม อีก จำนวน 96 เตรียงในกรณีฉุกเฉิน

สำหรับสรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสุราษฎร์ธานีรอบใหม่ ล่าสุด พบติดเชื้อรวม 8 ราย รักษาตัว รพ.7 ราย และรอผลตรวจ 4 ราย หายไม่พบเชื้อและให้กลับบ้านแล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นคนส่งกุ้งสมุทรสาครที่ไม่พบอาการ ตรวจผลสองรอบไม่พบเชื้อจึงให้กลับบ้าน แต่ขอให้กักตัวเองโดยมี อสม.เฝ้าติดตามอาการอีก 14 วัน 

ทั้งนี้ผู้ที่เดินทางมาจาก 8 จังหวัดพื้นที่สีแดงที่ต้องกักตัวยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ จ.สมุทรสาคร -กรุงเทพ- ระยอง- นครปฐม- นนทบุรี -ชลบุรี สมุทรปราการ- จันทบุรี ผู้ที่เดินทางจากจังหวัดสีแดงเข้ามาพื้นในที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องกักตัว 14 วัน  สวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงที่ชุมชน อย่างเคร่งครัด

เชียงใหม่ผวา! เปิดไทม์ไลน์ สาวติดโควิด กิจกรรมเยอะ ทัวร์ 3 จว.เที่ยว 5 สถานบันเทิงดัง เคาท์ดาวน์ข้าม...

ต่อมาผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ออกคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 16/2564

เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 30)

ประกาศยกระดับมาตรการควบคุม โดยกำหนดให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่สถานการณ์ควบคุม (สีส้ม) เพื่อยกระดับมาตรการควบคุมโรคให้เข้มงวดมากขึ้น  

ข้อ 1 ให้ปิดสถานที่บางประเภทในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย สนามชนไก่ กัดปลา ประลองโค ชนโค ชนกระบือ สนามมวย สนามแข่งขันนกกรงหัวจุก นกเขา หรือสนามการแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน ตลอดจนกิจกรรมซ้อมชนไก่ เป็นการชั่วคราว

ข้อ 2 การจำกัดเวลาเปิด - ปิด สถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)

(1) ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ทุกแห่ง ให้เปิดบริการได้โดยจำกัดช่วงเวลาการให้บริการ และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ดังนี้

ก.วันจันทร์ - ศุกร์ ให้เปิดบริการระหว่างเวลา 14.00 -19.00 น.

ข.วันหยุดราชการหรือช่วงปิดเทอม ให้เปิดบริการระหว่างเวลา 10.00 – 19.00 น.

ค.ให้กำจัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนที่ให้บริการตามปกติโดยให้เข้มงวดเรื่องการคัดกรองผู้เข้าใช้บริการให้มีระห่างไม่น้อยกว่า 1 เมตร พร้อมทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสเป็นประจำทุกชั่วโมงและดำเนินการตามมาตรการการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด

(2) ให้สถานศึกษาทุกแห่งทุกสังกัดในจังหวัดสุราษฏร์ธานี ทั้งของรัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถาบันกวดวิชาทุกแห่ง ปิดการเรียนการสอน ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 18 มกราคม 2564

ในระหว่างที่สถานศึกษาต้องปิดการเรียนการสอนดังกล่าว หากมีความจำเป็นให้สถานศึกษานั้น ๆ กำหนดแนวทางแก้ปัญหา ทั้งนี้ ให้สถานศึกษาจัดให้มีการเรียนการสอนด้วยการไม่ต้องเข้าชั้นเรียนตามรูปแบบที่ต้นสังกัดกำหนดหรือรูปแบบที่เหมาะสมตามที่สถานศึกษากำหนด โดยปรับการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์

(3) ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ ศูนย์อาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดบริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด

(4) ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด

(5) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ นวดแผนโบราณ/นวดแผนไทย/นวดเพื่อสุขภาพ และกิจกรรมสปา อบไอน้ำ อบสมุนไพร โต๊ะสนุกเกอร์/บิลเลียต ให้เปิดบริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด สำหรับการอบไอน้ำ และอบสมุนไพร ห้ามมิให้มีการเข้าใช้บริการอบไอน้ำ/อบสมุนไพรแบบรวมกลุ่ม โดยให้เข้าใช้บริการครั้งละ 1 คน

(6) ให้สถานบริการที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายกับสถานบริการ ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้านคาราโอเกะ ให้เปิดบริการจนถึงเวลา 24.00 น. โดยห้ามมิให้มีการบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ภายในร้าน และให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด

(7) ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทุกประเภท ห้ามมิให้มีการบริโภคสุราและและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ภายในร้าน

ข้อ 3 การคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดสุราษฏร์ธานี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรองโรค คัดกรองการเดินทางโดยใช้เส้นทางคมนาคมข้ามเขตพื้นที่จังหวัด (ฝั่งขาเข้าจังหวัด) โดยให้ยานพาหนะทุกคันที่ขับผ่านจุดคัดกรองจะต้องลงทะเบียนผ่าน ระบบ OR CODE ตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีกำหนดโดยเคร่งครัด โดยให้ ศปก.อำเภอ พื้นที่ กำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการที่ ศปก.ศบค. และจังหวัดสุราษฎร์ธานีกำหนด อย่างเคร่งครัด

ขอความร่วมมือประขาชนงดหรือชะลอการเดินทางช้ามเขตจังหวัต เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

ข้อ 4 มาตรการ Work From Home ขอความร่วมมือส่วนราชการและผู้ประกอบการ ภาคเอกชนพิจารณารูปแบบการปฏิบัติงานในช่วงระยะเวลานี้ ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งหรือการสลับวันหรือการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติงานเพื่อลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและปริมาณการเดินทางซึ่งเป็นมาตรการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ข้อ 5 การปฏิบัติและบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ให้ส่วนราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติตต่อ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนปฏิบัติตามคำสั่ง จังหวัดสุราษฏร์ธานี เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 29) ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 4 มกราคม 2564 และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเคร่งครัด

อนึ่ง การดำเนิการตามคำสั่งนี้ เป็นกรณีที่มีสถานการณ์อันกระทบหรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยเนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ เป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติตต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกสิ่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวได้

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

 

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ