ผลวิจัย ชี้ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกไม่ต้องพึ่งเคมีบำบัด
ปัญหาโรคมะเร็งของผู้หญิงในปัจจุบัน
รศ.นพ.กฤษณ์ จาฏามระ หัวหน้าศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย บอกว่า การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด คือการนำเซลล์ภูมิคุ้มกันพื้นฐานในร่างกาย ไปกระตุ้มภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็ง
เริ่มต้นจากทีมจะนำเซลล์ภูมิคุ้มกันพื้นฐาน มาเลี้ยงในห้องปฎิบัติการ ให้เจริญเติบโตควบคู่ไปกับโปรตีนจำเพาะของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแต่ละคน เมื่อเซลล์ภูมิคุ้มกันพื้นฐานสามารถเรียนรู้เซลล์มะเร็งที่เลี้ยงควบคู่กันแล้ว ก็จะนำมาฉีดกลับเข้าไปในร่างกายผู้ป่วย เพื่อให้เข้าไปกำจัดเซลล์มะเร็ง ซึ่งวิธีการนี้มีการศึกษามาเป็นเวลานาน มีการเตรียมเครื่องมือและบุคคลากรทางการแพทย์ที่ไปศึกษาเพิ่มเติมในต่างประเทศถึง 3 ปี ก่อนที่จะนำมาใช้ทดลองรักษาในผู้ป่วยจริง
ผู้ป่วยที่เคยรักษาด้วยวิธีนี้ เริ่มแรก ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม เซลล์มะเร็งได้กระจายไปทั่วร่างกายทั้ง ตับ กระดูก ปอด ในช่วงเวลา 3 ปี แม้จะผ่าตัดเนื้อร้ายบริเวณตับออก และรักษาด้วยเคมีบำบัด แต่ต่อมาก็กลับมาเป็นซ้ำอีกรอบ ทีมแพทย์จึงเสนอวิธีการรักษาภูมิคุ้มกันบำบัด
ซึ่งจากการดำเนินการรักษาด้วยการฉีดเซลล์ภูมิคุ้มกันเข้าร่างกายผู้ป่วยไป 6 เดือน อาการต่างๆดีขึ้น ผู้ป่วยไม่เหนื่อย น้ำในปอดหายไป ไม่มีอาการปวดกระดูก จากเดิมต้องนั่งรถเข็น แต่กลับเดินขึ้นลงบันไดเองได้
ล่าสุดได้เจาะตรวจชิ้นเนื้อจากตับที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไป ไม่พบเซลล์มะเร็งเหลืออยู่เลย นอกจากนี้ผลข้างเคียงในการรักษาก็มีน้อย เช่น มีตุ่มน้ำใส ปวดตามข้อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขณะที่วิธีการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งประสบความสำเร็จ ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูล และยังต้องใช้งบประมาณในการปรับปรุงกระบวนการและเครื่องมือ เพื่อขยายการรักษาต่อไป