แม่หวั่น"เพนกวิน"เสี่ยงติดโควิดในห้องขัง
"บิ๊กตู่" สั่ง ดูความจำเป็น "เคอร์ฟิว" บางพื้นที่ ชี้ พิจารณาลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน ผู้ไม่มีอาการ
ห้องกักตัวแบบดีไอวาย ผีมือของนางศันสนีย์ วงศ์กะรัต ชาวอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่บรรจงทำด้วยตัวเอง เพื่อใช้เป็นสถานที่กักตัวของลูกสาว วัย6 ขวบ หลังน้องเดินทางจากกรุงเทพ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง กลับไปบ้านที่จังหวัดตาก จึงต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แม้ผลตรวจจะออกมาไม่พบเชื้อ แต่ก็ต้องกักตัวตามคำสั่งของจังหวัด โดยขณะนี้ลูกสาวกักตัวมาแล้ว 4วัน
สำหรับห้องกักตัวที่เห็นอยู่นี้ ใช้ไม้ทำเป็นโครงสูงจนชิดกับเพดาน แล้วนำพลาสติกใสมาหุ้ม ก่อนจะนำมาวางกั้นเป็นห้องขนาดเล็กบริเวณชั้นล่างของบ้านซึ่งแบ่งให้เป็นโซนของลูกสาวตลอด 14 วัน ภายในห้องกักตัวมีเตียงเล็กๆ ชั้นใส่เสื้อผ้า พัดลม โต๊ะกินข้าว ทางครอบครัวยังได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดติดตามความเคลื่อนไหว รวมไปถึงอุปกรณ์ใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว และถังขยะเก็บขยะมูลฝอย ซึ่งทั้งหมดนี้น้องแยกใช้คนเดียว ไม่ปะปนกับคนอื่นในครอบครัว โดยคุณแม่ได้ศึกษาวิธีทำที่กักตัวแบบนี้จากอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาปรับใช้ ซึ่งค่าใช้จ่ายการทำทั้งหมดนี้สนนราคาประมาณ 600 บาท
คุณแม่น้องวัย 6 ขวบเล่าว่า ที่บ้านมีห้องอยู่แล้ว แต่ไม่อยากให้ลูกสาวรู้สึกเคว้งคว้าง โดดเดี่ยว จึงเลือกที่จะทำห้องกักตัวแบบโปร่งใส ให้น้องเห็นแม่ และแม่เห็นน้องตลอดเวลา เริ่มแรกน้องไม่เข้าใจต้องอธิบายกันยกใหญ่ และแม้จะเข้าใจน้องก็ยังกังวล เพราะต้องอยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียว โดยเฉพาะการนอนที่ต้องนอนคนเดียวครั้งแรกในชีวิต แต่ขณะนี้เริ่มปรับตัวได้แล้ว
ตลอดการกักตัว 4 วันที่ผ่านมา ถึงแม้ผลตรวจลูกสาววัย 6 ขวบจะไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่คุณแม่ย้ำว่า ก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเข้มงวด โดยทุกวันเมื่อต้องนำอาหารมาให้ลูกสาว ก็จะใช้วิธีวางไว้หน้าห้อง เมื่อน้องกินเรียบร้อย ก็จะให้วางไว้ตรงประตู ซึ่งวิธีการเก็บก็จะใส่ถุงมือ ฉีดพ่นแอลกอฮอล์ทุกครั้ง รวมไปถึงแยกห้องน้ำ โดยน้องจะใช้ชั้นล่าง ส่วนพ่อและแม่ใช้ข้างบน ลดการสัมผัส ทั้งนี้ลูกสาวจะครบกำหนดกักตัวในวันที่ 4 พฤษภาคม