ไฟเซอร์ - แอสตร้าเซเนก้า ครบ 2 โดส ประสิทธิภาพสูงต้านสายพันธุ์อินเดีย
เทียบผลข้างเคียงทั่วไป 2 วัคซีน "ซิโนแวคอาการน้อยกว่าแอสตร้าเซเนก้า"
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2564 สถาบันวัคซีนแห่งชาติ รายงานว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา หรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่า B.1.617.2 เริ่มมีการแพร่ระบาดจากประเทศอินเดีย ไปยังอีกกว่า 62 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาด้วย
จากข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็วของประเทศอังกฤษ พบว่า เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากสายพันธุ์เดลตา กว่า 60% ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากสายพันธุ์เดลตา มากกว่า 6% เช่นเดียวกัน
โดย เมื่อวันอังคาร (8 มิ.ย.64) ที่ผ่านมา นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี่ หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาว และผู้อำนวยการสถาบันโรถภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) ได้กล่าวถึงรายงานของหน่วยงานสาธารณสุขประเทศอังกฤษ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การฉีดวัคซีน แอสตร้าเซเนก้า (AstraZeneca) และ ไฟเซอร์ (Pfizer) ครบ 2 โดส มีประสิทธิผลในการก้องกันการป่วยแบบมีอาการจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ถึง 60% และ 88% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนเพียง 1 โดสนั้น วัคซีนจะมีประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยแบบมีอาการจากการติดเชื้อโตควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ได้เพียง 33% เท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 2 โดส โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง