วันนี้ (21 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำข้อเสนอบริจาควัคซีนแอสตร้าเซเนก้าให้ประเทศไทยผ่านมายังกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข หากพิจารณารายละเอียดข้อเสนอเรียบร้อย คาดว่าจะลงนามตอบกลับไปได้ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ และส่งมาได้ในเดือนก.ค. โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดจำนวนวัคซีนที่จะบริจาคได้
“อนุทิน” รับมอบวัคซีน “แอสตร้าเซเนก้า”1.8 ล้านโดส ลั่นไม่เคยแทงม้าตัวเดียว
แอสตร้าเซเนก้า ยืนยัน ยังส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ตามแผนที่กำหนด
ส่งมอบ "วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า" ผลิตจากสยามไบโอไซเอนซ์ 1.8 ล้านโดส
สำหรับการบริจาควัคซีนของญี่ปุ่นถือเป็นสัมพันธไมตรีและมิตรภาพระหว่างสองประเทศ ช่วยให้ประเทศไทยสามารถกระจายวัคซีนได้เพิ่มมากขึ้น และเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ประเทศไทยใช้ ทำให้สามารถนำมาฉีดเข็มแรกได้อย่างเต็มที่และมีความคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ญี่ปุ่นมีการลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก หลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิดการลงทุนและค้าขายระหว่างสองประเทศก็จะแน่นแฟ้นกว่าเดิม
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการกระจายวัคซีน เป็นไปตามสูตรของ ศบค. เพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐาน เมื่อวัคซีนส่งไปถึงแต่ละจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครจะพิจารณาจัดสรรอย่างเหมาะสมแต่ละพื้นที่ต่อไป โดยวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าทยอยส่งมาทุกสัปดาห์ ขอให้แต่ละจังหวัดเมื่อรับวัคซีนไปแล้วกระจายและฉีดอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถฉีดได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดช่วง ส่วนกรณีหนังสือของปลัดกระทวงมหาดไทยขอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาสนับสนุนวัคซีนให้บริษัทเอกชน ทางปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีการยกเลิกหนังสือดังกล่าวไปแล้ว
ส่วนนโยบายเปิดประเทศของนายกฯ มีการประเมินทุกมิติ ทั้งการติดเชื้อ ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ปัญหาปากท้อง และโอกาสการสร้างรายได้ของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ หากมีเหตุการณ์ได้เตรียมพร้อมรับมือทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ รวมถึงวัคซีน เพื่อให้สามารถดำเนินการตามนโยบายได้ โดยภายใน 1-2 วันจะมีการหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ