กรณีเอกสารหลุด บทสรุปการประชุมเฉพาะกิจร่วมคณะกรรมการด้านวิชาการ ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ ฯคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และคณะทำงานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 ซึ่งมีประเด็นสำคัญ คือแผนกระจายวัคซีนโควิดยี่ห้อไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส บันทึกระบุถึงข้อคิดเห็นผู้ร่วมประชุม อาทิ “ในขณะนี้ถ้าเอามาฉีดกลุ่ม 3 (กลุ่มด่านหน้า บุคลากรทางการแพทย์) แสดงว่าเรายอมรับว่า Sinovac ไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น” จนเป็นประเด็นร้อน ที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์
เลขาธิการแพทยสภา เรียกร้องรัฐ ฉีดวัคซีนเข็ม 3 “ไฟเซอร์” ให้บุคลากรทางการแพทย์
ฉีดวัคซีนครบแล้วยังติด สาเหตุที่หมอขอวัคซีนโควิดเข็ม 3
อดีตนายกแพทยสภา วอน นายกฯ ฉีด “ไฟเซอร์”ให้บุคลากรทางการแพทย์
ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค.64) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับเอกสารการประชุมพิจารณาวัคซีนไฟเซอร์ที่หลุดออกมาเผยแพร่ในสื่อออนไลน์เป็นเอกสารในการประชุมงานวิชาการจริง แต่เป็นเพียงข้อเสนอจากคณะกรรมการวิชาการเท่านั้น ไม่ใช่แนวทางปฏิบัติจริง ย้ำยังไม่ได้ข้อสรุป
"ทุกท่านก็ต้องให้ความเห็นของแต่ละท่านเข้าไป เขาก็บันทึกไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไอ้นั่นคือแนวปฏิบัติ เพราะว่าหลังจาก ยังมีอีกหลายขั้นตอน ที่จะมาตกลงกันว่าปฏิบัติตาม แนวทางไหน อย่าไปซีเรียสลืมไปได้เลย"
เมื่อถามว่า แสดงว่าตรงนั้นเป็นเหมือนข้อเสนอ นายอนุทิน ตอบว่า "เป็นความเห็นด้วยซ้ำนะครับด้วยว่าแต่ละท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเขาก็รวบรวมออกมา ตอนนี้ไง ถึงต้องมีคณะกรรมการ เราทิ้งไม่ได้ให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นคนตัดสินใจก็ถูกต้องแล้ว กระบวนการทั้งหลายก็ถูกต้องหมด"นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทินยังปัดตอบกรณีข้อ 10 ของเอกสารที่ระบุ หากฉีดไฟเซอร์เข็มที่ 3 แล้วจะเป็นการยอมรับว่า วัคซีนซิโนแวคไม่มีประสิทธิภาพ ระบุเป็นเรื่องของคณะกรรมการวิชาการ ที่จะเป็นผู้พิจารณา ยืนยัน ผู้เชี่ยวชาญในคณะกรรมการต่างมุ่งมั่นทำงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
มีรายงานว่า วันนี้เวลา13.00 กรมควบคุมโรคเตรียมแถลงข่าวปมเอกสารประชุมพิจาณาไฟเซอร์หลุดที่กระทรวงสาธารณสุขด้วย
ส่วนหนึ่งของเอกสารบันทึกการประชุม
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า มติที่ประชุมดังกล่าว เห็นชอบให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ ที่ได้รับจำนวย 1.5 ล้านโดส ก.ค. - ส.ค. 64 เป็นเข็ม 1 ทั้งหมดแก่ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ขึ้นไป ในพื้นที่ ที่มีการระบาดรุนแรง ในขณะนี้คือพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต และควรเตรียมการด้านบุคลากร สถานที่ฉีด และอุปกรณ์ในการฉีดที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีน
ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก ถึงบางอ้อกับหมอเอ แชร์โพสต์ของบุคคล ที่อ้างถึงเอกสารหลุดนี้