ช่วงเช้าที่ผ่านมา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ นำเครื่องวัดค่าอากาศ ตรวจวัดค่าสิ่งปนเปื้อนในอากาศรอบโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบว่ารอบๆที่เกิดเหตุรัศมี 1 กิโลเมตร พบมีการระเหยของสารเคมีในอากาศเกินค่ามาตรฐาน ประกอบกับขณะนี้ยังมีการประทุอยู่เป็นระยะ ทำให้มีควันพิษออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่จะต้องควบคุมพื้นที่ไว้ก่อน
บทเรียนไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ความเหมือนที่แตกต่างกับไฟไหม้บ่อขยะแพรษา
994 หมู่บ้าน 1,120 โรงงานกระทบ ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว กรมควบคุมมลพิษ เปิดสาเหตุระเบิด กระจายไกล
แต่ประเมินไว้ว่าภายในระยะรัศมี 2 กิโลเมตรอาจเป็นจุดที่ประชาชนสามารถกลับเข้ามาพักอาศัยได้ตามปกติ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดปลดล็อคให้ประชาชนที่พักอยู่ในรัศมี 2 กิโลเมตรขึ้นไป กลับเข้ามาในพื้นที่ได้
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ บอกว่า สารเคมีที่ระเหยปนเปื้อนกับอากาศ ตรวจพบสารสไตรีนและฟอเมอรีไฮต์ ซึ่งตัวสารฟอเมอรีไฮต์ เป็นแก๊สพิษที่หากสูดดมเข้าไปจะทำปฏิกิริยาจับตัวกับฮีโมโกบินในเม็ดเลือดแดงแทนออกซิเจน ซึ่งอาจทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ จะเกิดอาการ เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบหรืออาการรุนแรงถึงขั้นเป็นสารก่อมะเร็งได้ หมดสติและเสียชีวิตได้
ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปฉีดน้ำและโฟมควบคุมความร้อนบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ เพื่อป้องกันการปะทุซ้ำ ซึ่งหากมองจากภาพมุมสูงของสมาคมต่อต้านภัยพิบัติ ที่นำโดนบินสำรวจบริเวณโรงงาน จะเห็นว่าขณะนี้เหลือเพียงเศษซากความเสียหาย และบางจุดก็ยังมีการประทุเป็นระยะ
สำหรับภาพรวมของการระงับเพลิงไม่โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกในวันนี้จะควบคุมเพลิงใหญ่ไว้ได้และไม่มีควันสีดำที่เห็นชัดแต่ก็ยังถือว่าไม่ได้จัดการควบคุมสถานการณ์ได้100% เพราะยังมีเจ้าหน้าที่สแตนด์บายคอยระงับเหตุหน้างานอยู่ โดยกระบวนการทำงานในวันนี้จะเป็นอย่างไรต้องรอความชัดเจนจากผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะแถลงข่าวในช่วง 11:30 น.