“ประสิทธิภาพวัคซีนทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง” กับสายพันธุ์เดลตา
ประเทศใดบ้างในโลก ที่ประชาชนต้องเสียเงินซื้อวัคซีนโควิด-19 เอง
สรุปให้วัคซีนบูสเตอร์กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ก่อน ส่วน ปชช. แนะควรห่างจากเข็มสอง 6 เดือน
เชื้อไวรัสบางชนิดอย่างไวรัสที่ก่อโรคตับอักเสบ หากฉีดครบโดสที่กำหนด ภูมิคุ้มกันสามารถอยู่ได้เกือบชั่วชีวิต แต่ไวรัสบางชนิดอย่างเช่น ไข้หวัดใหญ่ วัคซีนต้องปรับและอัพเดทกันทุกปี เพราะเชื้อกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว
กรณีของไข้หวัดใหญ่คล้ายคลึงกับโควิด-19 ที่อนาคตวัคซีนจากหลายบริษัทต้องมีการปรับสูตร แต่ปัญหาคือ ประสิทธิภาพในการรับมือกับไวรัสโควิดในปัจจุบันของวัคซีนแต่ละตัวก็ยังคงแตกต่างกันมาก
เช่น วัคซีนซิโนแวค ที่หากฉีดครบสองโดสจะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 51 แต่สำหรับวัคซีนของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา อัตราการป้องกันกลับสูงถึงมากกว่าร้อยละ 90
ในขณะเดียวกันโควิดก็ยังคงกลายพันธุ์ตลอดเวลา เหล่านี้คือเหตุผลเบื้องต้นว่าทำไม ประเด็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ทั้งยี่ห้อเดิม หรือยี่ห้ออื่น จึงกำลังเป็นเรื่องหลักที่ต้องพิจารณา โดยมีหลายประเทศที่ขณะนี้เดินหน้าในโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว เช่น ในสหราชอาณาจักร มีแผนที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับกลุ่มเสี่ยงอย่าง ผู้สูงอายุในบ้านพักคนชรา ภายในเดือนกันยายนนี้ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับวัคซีนครบสองดดสไปแล้วก็ตาม
นอกจากนั้นยังมีโครงการทดสอบที่ชื่อ Cov-Boost โดยมหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตัน โดยทดสอบกับวันทำงานและผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสมาแล้วมากกว่า 70 วัน จำนวน 3,000 คน
อีกประเทศคือ ตุรกี ที่เริ่มฉีดแล้วเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
เหตุผลคือเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในการป้องกันการระบาดของไวรัสเดลตา โดยวัคซีนที่ฉีดเพิ่มเป็นเข็มที่ 3 นี้ จะใช้ไฟเซอร์หรือซิโนแวคก็ได้ แต่มีเงื่อนไขว่าคนที่จะรับต้องได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เบื้องต้นฉีดเข็มที่ 3 ไปแล้วราว 299,000 ราย
อีกประเทศคือรัสเซีย ระบุว่า คนที่จะได้รับเข็มที่ 3 ต้องได้รับวัคซีนครบสองโดสไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยมีวัคซีน 4 ตัวให้เลือกสำหรับการเสริมภูมิคุ้มกันได้แก่ SputnikV, EpiVacCorona, CoviVac และ Sputnik-Light
นอกจากนั้นก็ยังมีบาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทั้งสองประเทศนี้จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปที่ได้รับซิโนฟาร์มครบสองโดสแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ประเทศที่ฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสไม่มากอย่างซิโนแวค หรือซิโนฟาร์มเท่านั้นที่ควรจะฉีดเข็มที่ 3 เพิ่ม
ล่าสุดอิสราเอล ประเทศที่ฉีดไฟเซอร์เป็นหลักก็กำลังพิจารณาประเด็นนี้ เพราะล่าสุดรายงานจากสาธารณสุขอิสราเอลระบุว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์นั้นลดลงถึงร้อยละ 30 เมื่อเผชิญกับโควิดเดลตา
โดยอิสราเอลพบว่า ช่วงเดือนพฤษภาคม ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันอาการป่วยจากไวรัสเดลตาอยู่ที่ร้อยละ 94.3 แต่ข้ามมาเดือนมิถุนายนกลับเหลือเพียงร้อยละ 64 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่โควิดเดลตาระบาดหนักขึ้นในหลายประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางสาธารณสุขจึงกำลังพิจาณาว่าจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ดีหรือไม่ แม้ว่าจะยังไม่มีงานวิจัยจากบริษัทเจ้าของวัคซีนก็ตาม รวมถึงโดยปกติแล้ว การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 มักฉีดยี่ห้อที่แตกต่างจากสองเข็มแรก
ทั้งนี้ อิสราเอลคือหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนมากที่สุด ด้วยอัตราการฉีดครบสองโดสมากถึงเกือบร้อยละ 60
แต่กระนั้นแม้แต่ประเทศที่เกือบจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้แล้วอย่าง อิสราเอล การอุบัติขึ้นของโควิดเดลตาก็สะท้อนว่า ยังไม่อาจปลอดภัยได้อย่างแท้จริง