การให้ยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นแนวทางการรักษาที่สำคัญและสามารถช่วยบรรเทาอาการผู้ติดเชื้อได้ ซึ่งปัจจุบัน ในไทยมีการใช้ยารักษาโควิด-19 หลายชนิด และใช้แตกต่างกันไปตามลักษณะอาการ ดังนี้
ฟาวิพิราเวียร์ (Fapiviravir)
ฟาวิพิราเวียร์ (Fapiviravir) หรือในชื่อการค้าคือ Avigan และ Favilavir เป็นยาต้านไวรัส ที่มีการนำมาใช้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา ในปี 2557 โดยมีฤทธิ์ต้านไวรัสในกลุ่ม RNA หลายชนิด อาทิ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสไข้เหลือง ไวรัสโรคปากและเท้าเปื่อย และไวรัส
"ฟ้าทะลายโจร" สู้โควิด-19 ใช้มากกว่าปกติ 3 เท่า
รู้จัก “ยาฟาวิพิราเวียร์” หนึ่งในยาต้านโควิดที่ไทยใช้
จากข้อมูลการทดลองยาต้านไวรัสหลายชนิดกับผู้ป่วยโควิด-19 พบว่ายาฟาวิพิราเวียร์ ให้ผลที่น่าพอใจ โดยผลทดลองในจีนเมื่อปีที่แล้ว พบว่าผู้ป่วย 72% มีไข้ลดลง หลังได้รับยา 2 วัน และ 38% มีผลภาพรังสีปอดที่ดีขึ้น หลังได้รับยา 3 วัน และดีขึ้นเป็น 70% หลังได้รับยา 6 วัน
สำหรับไทยมีการอนุมัติให้ใช้ยา ฟาวิพิราเวียร์สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจากการเก็บข้อมูลพบว่า มีความปลอดภัยและสามารถลดความรุนแรงและการสูญเสียจากโรคโควิด-19 ได้
โดยกรมการแพทย์ กำหนดแนวทางการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยและมีความเสี่ยงหรือปอดอักเสบเล็กน้อย ไปจนถึงผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบและความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดที่อุณหภูมิห้องน้อยกว่า 96% หรือมีอาการปอดอักเสบขั้นรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เกณฑ์การใช้งานจะไม่ถึงกับให้ยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับผู้ป่วยทุกคน เนื่องจากมีอาการข้างเคียงที่ต้องระวัง
คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เป็นยาลดการอักเสบในกลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ประกาศข้อแนะนำให้ใช้ร่วมกับยากดภูมิคุ้มกันอย่าง แอคเท็มรา (Actemra) และ เคฟซารา (Kevzara) เพื่อลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต
สำหรับในไทย กรมการแพทย์กำหนดแนวทางใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง โดยอาจใช้ร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์, ยาโลพินาเวียร์และริโทนาเวียร์ (Lopinavir/Ritonavir)
โลพินาเวียร์และริโทนาเวียร์ (Lopinavir/Ritonavir)
เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี (HIV) สูตรผสม ระหว่างโลพินาเวียร์และริโทนาเวียร์ โดยกรมการแพทย์กำหนดแนวทางการให้ยา 2 ตัวนี้ ร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง
ฟ้าทะลายโจร
สำหรับยาฟ้าทะลายโจร ถือเป็นสมุนไพรที่ไทยนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ควบคู่กับการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเป็นสมุนไพรที่ถูกบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และมีสารสำคัญ คือแอนโดรกราโฟไลด์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และบรรเทาอาการป่วยโควิด-19 ที่ไม่รุนแรง เช่น คัดจมูก หรือมีน้ำมูก ลดโอกาสที่ไวรัสจะลุกลามลงปอด และใช้ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดอาการรุนแรง ขณะที่ไม่ช่วยป้องกันอาการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19
จากผลการวิจัย พบว่าการใช้ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อผู้ป่วยโควิด-19 มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส แต่ประสิทธิภาพจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ ดังนั้นจึงควรใช้ในปริมาณตามคำแนะนำของแพทย์ โดยควรกินวันละ 180 มิลลิกรัม แบ่งวันละ 3-4 ครั้ง ไม่ควรกินเกิน 5 วัน และไม่ควรใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาลดความดัน รวมทั้งควรระวังหากใช้ในขณะมีไข้สูง และในผู้ป่วยที่มีโรคตับและไต มีอาการแพ้หรือตั้งครรภ์
