“วัคซีนไฟเซอร์” จัดส่งครบแล้ว 7 แสนโดส กรมควบคุมโรค ยืนยันไม่มีสต๊อกวัคซีน ไม่เลือกฉีดเคสวีไอพี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรมควบคุมโรค จัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ 7 แสนโดส รอบ 2 ครอบคลุม 77 จังหวัด เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข คาดถึงพื้นที่ 14 ส.ค.นี้ ยืนยันเป็นไปตามเกณฑ์และความเหมาะสมของพื้นที่ ไม่มีการสต๊อกวัคซีน ไม่เลือกฉีดเคสวีไอพี หากพบเบาะแสฉีดผิดกลุ่มเป้าหมาย แจ้งเข้ามาได้ทันที

วันนี้ 12 ส.ค. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ว่าการจัดสรรโควต้าวัคซีนไฟเซอร์ 7 แสนโดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในพื้นที่ 77 จังหวัด ได้มีการจัดส่งวัคซีน แบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรกจัดส่งระหว่างวันที่ 4-5 ส.ค. จำนวน 442,800 โดส

หมอโอภาส แจงขั้นตอน ไทม์ไลน์ วัคซีนไฟเซอร์ ปักเข็มแรก 9 ส.ค. 64

สธ. ยันบุคลากรทางการแพทย์-ด่านหน้า ได้ฉีด “ไฟเซอร์”ไม่น้อยกว่า 5 แสนโดส

รอบที่สองทยอยจัดส่งตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. จำนวน 257,200 โดส และคาดว่าจะถึงทุกพื้นที่ไม่เกินวันที่ 14 ส.ค. นี้ ส่วนหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 7 แสนโดส อ้างอิงมาจากฐานข้อมูลระบบกระทรวงสาธารณสุข (MOPH-IC) ที่มีประวัติการฉีดวัคซีนซิโนแวค ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. - 22 มิ.ย. 64 เนื่องจากวัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีนหลักที่ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงแรก และเป็นจำนวนบุคลากรทั้งหมดโดยไม่แยกว่าเป็นด่านหน้าหรือกลุ่มสนับสนุน

สำหรับการจัดส่งวัคซีนไปในพื้นที่ทั้ง 2 รอบ โดยห่างกัน 1 สัปดาห์ ซึ่งรอบแรกมีหลักเกณฑ์โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สำรวจผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มกระตุ้น และให้ส่งข้อมูลกลับมาภายในวันที่ 30 ก.ค.2564 ซึ่งพบว่าข้อมูลที่สำรวจมีความหลากหลาย เช่น ไม่สอดคล้องกับจำนวนบุคลากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคในฐานข้อมูล และหลายจังหวัดส่งข้อมูลกลับมาเลยเวลาที่กำหนด อีกทั้งมีบุคลากรทางการแพทย์ประมาณ 2 แสนราย ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มกระตุ้นไปแล้ว 

รัฐบาลยันทยอยส่ง"ไฟเซอร์"ให้จนครบ

นอกจากนี้ เมื่อเก็บวัคซีนไฟเซอร์ในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส จะมีอายุได้ 1 เดือน หากต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่สอง จะต้องฉีดห่างจากเข็มแรก 3 สัปดาห์ ก่อนวัคซีนจะเสื่อมสภาพ

  ดังนั้น การจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ในรอบแรก จึงต้องส่งให้ครบตามจำนวนที่ต้องการในแต่ละพื้นที่ ส่วนจังหวัดที่ไม่ได้แจ้งความประสงค์หรือแจ้งมาไม่ถึงร้อยละ 50 ของจำนวนบุคลากร ก็ยังจัดส่งวัคซีนให้ร้อยละ 50 ของจำนวนบุคลากร เนื่องจากเข้าใจถึงความยุ่งยากในการประสานงาน ส่วนจังหวัดที่ต้องการมากกว่าร้อยละ 50 ถึงร้อยละ 74 ของจำนวนบุคลากร จะจัดสรรให้ตามที่แจ้งมา

สำหรับจังหวัดที่แจ้งความประสงค์มาเกินร้อยละ 75 จะจัดส่งให้ร้อยละ 75 ก่อน เพื่อตรวจสอบจำนวนให้ชัดเจน เพราะหากวัคซีนเหลือในพื้นที่ จะยากต่อการบริหารจัดการ ซึ่งหากเปลี่ยนไปฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 608 จะไม่สามารถบริหารวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ และกลุ่มเสี่ยงก็จะได้รับวัคซีนในรอบ 2 ในสัปดาห์ถัดไปอยู่แล้ว

ขณะนี้ได้ทยอยส่งวัคซีนไฟเซอร์ให้โรงพยาบาลใหญ่ๆ โรงเรียนแพทย์ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค ที่ผ่านมา เนื่องจากทราบดีว่าเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีบุคลากรทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก และได้จัดส่งวัคซีนที่เหลือแต่ละจังหวัดให้ครบตามจำนวนในระบบฐานข้อมูลแล้ว คาดว่าวัคซีนจะถึงพื้นที่ทั้งหมดไม่เกินวันที่ 14 ส.ค. นี้ ซึ่งได้แนบเอกสารการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ 7 แสนโดส ว่าส่งไปที่โรงพยาบาลใดบ้าง ส่วนการจัดสรรจากโรงพยาบาลจังหวัด สสจ. จะจัดสรรไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ถือเป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

“ยืนยันว่าไม่มีการสต๊อกวัคซีนไว้ที่กรมควบคุมโรค และไม่มีการเลือกฉีดให้กับเคสวีไอพีใดๆ ทั้งสิ้น หากพบเบาะแสการนำวัคซีนไปฉีดผิดกลุ่มเป้าหมาย ขอให้แจ้งกระทรวงสาธารณสุข หรือศูนย์บริหารจัดการเรื่องร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข โทร.02 590 2876-7”

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ