เคอร์ฟิวต่ออีก 14 วัน เช็กมาตรการคลายล็อก“นั่งทานในร้าน -เปิดห้างแบบมีเงื่อนไข- เปิดร้านเสริมสวย" เริ่ม1 ก.ย. นี้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ศบค.มีมติคลายล็อก ร้านอาหารนั่งทานได้ 50%-เปิดร้านตัดผม- เปิดห้างแบบมีเงื่อนไข ย้ำ ยังคงเคอร์ฟิวอีก 14 วัน มีผล 1 ก.ย. นี้

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้ 27 ส.ค. 2564 เป็นการประชุมศบคชุดใหญ่ครั้งที่ 13 สืบเนื่องจาการพิจทีรณาข้อกำหนดฉบับที่ 30 มาตรา 9  ซึ่งประกาศตั้งแต่ 3 ส.ค. 2564 ในแง่การจัดระดับพื้นที่ และก็ครบกำหนดการประเมินในวันที่ 31 ส.ค. 2564 โดยการปรับมาตรการป้องกันโควิด-19 ก็มีการพูดคุยในหลายๆประเด็น

ประกันสังคม เปิดชำระเงินสมทบ ม.40 ผ่านแอปฯ Shopee

วิจัยสหรัฐฯ พบหลักฐาน โควิด-19 อาจแพร่กระจายแบบ Airborne เป็นหลัก

ในครั้งนี้ไม่มีปรับสีพื้นที่สถานการณ์ แต่มีการปรับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด มีการอนุญาตเปิดกิจการ กิจกรรมเพิ่มเติม ตามความพร้อมและความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตใกล้เคียงปกติมากที่สุด รวมทั้งมีการพิจารณารอบด้านในเรื่องของเศรษฐกิจ และสังคม

ทั้งนี้การประชุมศบค.ชุดใหญ่ในครั้งนี้ ทางผอ.ศปก.ศบค. มีการนำเสนอถึงข้อพิจารณาควบคุมโรค สิ่งสำคัญมีข้อสรุปเป็นประเด็นว่า ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อในปัจจุบันตัวเลขยังไม่เล็กลงมากสอดคล้องกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่นำเสนอก็คือ สถานการณ์ทั่วโลกยังเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่เราจะพลิกมุมมอง พยายามปรับตัวที่จะร่วมอยู่กับโรคโดยปลอดภัยให้ได้ ทั้งตัวบุคคล ครอบครัว และสังคมด้วยการปรับกลยุทธสร้างความมั่นใจเพื่อให้การควบคุมโรคสอดคล้องไปกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างปลอดภัยด้วย

สำหรับการเสนอมาตรการในวันนี้เป็นการควบคุมโรคแนวใหม่ ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัยจากโควิด โดย 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอให้คงไว้มีเรื่องการ Work from Home และมาตรการเคอร์ฟิว อย่างน้อย 14 วัน โดยจะมีผลในวันที่ 1 ก.ย. นี้

นอกจากนี้ยังมีการยกระดับมาตรการป้องกันโรคแบบบุคคล หรือ เรียกป้องกันแบบครอบจักรวาล และมาตรการองค์กร เพื่อลดผู้ป่วยหนัก หรือ เสียชีวิต

ส่วนแรกยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อการเปิดกิจการและกิจกรรมอย่างปลอดภัยและยั่งยืนด้วยหลักการ COVID-Free Setting และ Universal Prevention

โดยมาตรการ Universal Prevention หรือ ป้องกันแบบครอบจักรวาล มีดังนี้

1.ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น

2.ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านเว้นแต่จำเป็น

3.เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ในทุกสถานที่

4.สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลดเวลา ทั้งที่อยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คนขึ้นไป

5.หลักเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปากโดยไม่จำเป็น

6.ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม ไอ จาม หรือสัมผัสวัตถุ สิ่งของที่ใช้ร่วมกัน

7.ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่สัมผัสบ่อยๆไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ หรือ สิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ

8.แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกันกับผู้อื่น

9.เลือกทานอาการที่ร้อน หรือ อาหารปรุงสุกใหม่ ควรทานอาหารแยกสำรับทานร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว

10. หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ติดเชื้อ หรือมีอาการ ควรได้รับการตรวจ ATK เพื่อยืนยันว่ามีการติกเชื้อหรือไม่ หรือควรไปรับการรักษาสถานพยาบาลใกล้บ้าน

มาตรการองค์กร หรือ COVID-Free Setting มีดังนี้

1.สิ่งแวดล้อม ต้องมีการระบายอากาศ มีสุขอนามัยที่สะอาด เว้นระยะห่าง

2. จะเน้นย้ำระดมฉีดวัคซีนให้ผู้ที่อยู่ในภาคบริการ เช่น ร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านนวดเป็นต้น โดยจะเร่งรัดให้ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมโดยเร็วที่สุด และ สนับสนุนให้มีการตรวจหาเชื้อ โดยใช้ชุดตรวจ ATK  ตรวจให้พนักงานทุกสัปดาห์ พร้อมทั้งมีป้ายระบุว่า ร้านนี้มีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 100 % ในส่วนของลูกค้า จำเป็นต้องร่วมมืออย่างเข้มงวดกับมาตรการของร้าน เช่น การฉีดวัคซีนของลูกค้า  รวมถึงการตรวจ ATK ก่อนเข้ารับบริการ เป็นต้น

โดยมติดังกล่าวให้เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป เน้นพื้นที่นำร่องในสถานประกอบกิจการที่มีความพร้อมก่อน

พญ.อภิสมัย ยังเปิดเผยว่าประชุมยังให้คงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ สีแดงเข้ม 29 จังหวัดไว้ตามเดิม คงมาตรการห้ามออกนอกเคหัสถาน หรือเคอร์ฟิว 21.00 น. - 04.00 น. ให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขอความร่วมมือเดินทางเท่าที่จำเป็น คนที่มีประวัติเสี่ยงหรือติดเชื้อให้เดินทางได้ตามโครงการรับคนกลับบ้านเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระหว่างเดินทาง ระบบขนส่งสาธารณให้เดินทางได้ จำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 75% ห้ามรับประทานอาหารในรถ ระยะทางไกลให้แวะพักทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อระบายอากาศ

ส่วนมาตรการผ่อนปรนร้านอาหาร ที่เป็นพื้นที่โล่งให้นั่งรับประทานอาหารได้ 75% ของพื้นที่ ส่วนห้องแอร์ให้นั่งได้ 50% ของพื้นที่ งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ภายใต้การกำกับติดตามมาตรการของสมาคมภัตตาคารไทยและคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด

ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. กิจการในห้างที่เปิดได้แบบมีเงื่อนไข  ร้านเสริมสวย ตัดผม  ให้บริการเฉพาะตัดผม ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ร้านนวด เฉพาะนวดฝ่าเท้า คลินิกเสริมความงาม ให้เฉพาะจำหน่ายสินค้า ร้านอาหารนั่งทานได้ 50% ของพื้นที่ร้าน ส่วน สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุมจัดเลี้ยง ยังไม่เปิดให้บริการ

ขณะที่มาตรการสำหรับกิจการร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวด ทั่วไปที่ ให้เปิดบริการได้ กับลูกค้าที่จองล่วงหน้า และต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ส่วนร้านนวดให้เฉพาะนวดฝ่าเท้าเท่านั้น

สนามกีฬาและสวนสาธารณะ ประเภทกลางแจ้งให้ใช้ เล่น ซ้อม แข่งขันได้แบบไม่มีผู้ชม จำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่รวมกลุ่มเปิดบริการได้ถึง 20.00น.

พญ.อภิสมัย ยังระบุว่า ส่วนกิจการอื่น ๆ ของให้ใจเย็น เพราะเป็นการอนุญาตให้เปิดในเบื้องต้น และจะมีการพิจารณาทบทวนกิจการอื่น ๆ ต่อไปหากสถานการณ์มีความผ่อนคลายมากขึ้น

สารประกอบจาก “เห็ดหนิวจังจือ” อาจเป็นอาวุธต้านโควิด-19 ในอนาคต

วิจัยสหรัฐฯ พบหลักฐาน โควิด-19 อาจแพร่กระจายแบบ Airborne เป็นหลัก

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ