วันนี้ 17 ก.ย. 2564 พญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า ที่ประชุมศบค.ได้กำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเดือนต.ค. มีดังนี้ โดยทุกจังหวัดจะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชากรครอบคลุมอย่างน้อย 50 % ของจังหวัด รวมถึงประชากรผู้สูงวัยและกลุ่มโรคเสี่ยง 608 ให้ครอบคลุม 70 % และขอให้ฉีดเพิ่มขึ้นต่อไปแม้ว่าจะเกิน 70 % ไปแล้ว
"อัศวิน ขวัญเมือง" ปัด เปิดกรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ 15 ต.ค. กทม.ยัง เสี่ยง!
เมื่อเป้าหมาายฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงครบแล้ว ขอให้แต่ละจังหวัดพิจารณาการฉีดวัคซีนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย โดยแผนคือ อย่างน้อย 1 อำเภอ จะต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70 % หากอำเภอนั้นถูกเลือกเป็นอำเภอนำร่อง สำหรับการเปิดเมืองเปิดนักท่องเที่ยว เป็นพื้นที่ทีมีความพร้อม ขอให้ ระดมฉีดวัคซีนในอำเภอนั้นๆให้เกิน 80 %
นอกจากนี้ในที่ประชุมศบค.ได้พูดถึงวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 หรือ บูสเตอร์โดส โดย กระทรวงสาธารณสุขได้มีการอนุมัติให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็ม ให้มารับวัคซีนบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ตั้งแต่ 24 ก.ย. เป็นต้นไป โดยประชาชนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็ม มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย ดังนั้นการรับวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันจะเป็นการทยอยฉีด โดยผู้ที่ฉีดช่วงเดือนมี.ค. -พ.ค. 2564 จะมีSMS เตือนให้มารับวัคซีนเข็ม 3 ส่วนผู้ที่ฉีดซิโนแวค ครบ 2 เข็ม เมื่อเดือนมิ.ย.-ก.ค. อาจต้องรอไปก่อน
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่จ.ภูเก็ตมีประชาชนได้รับวัคซีนเกิน 70 % โดยวัคซีนเข็ม 3 ที่จะเกิดขึ้นทางจังหวัดภูเก็ต ได้ศึกษาทดลองปรับให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 3 ฉีดเข้าผิวหนัง เทียบกับการศึกษากับ กลุ่มที่ฉีดวัคซีนเข้าทางกล้ามเนื้อ พบว่า ภูมิคุ้มกันหลังฉีดเข้าผิวหนังกับฉีดเข้ากล้ามเนื้อไม่มีความแตกต่างกัน จากนั้นทางภูเก็ตได้เสนอให้ที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขรับรองจนมีข้อสรุปออกมาว่า สามารถฉีดได้ โดยจะเริ่มฉีดที่จ.ภูเก็ต ดังนั้นวัคซีนบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ของจังหวัดภูเก็ต จะเป็นการฉีดเข้าทางผิวหนัง และจะทำให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 โดส จะฉีดได้ 5 คน โดยโดสจะอยู่ที่ 0.1 ML
นอกจากนี้ในเรื่องวัคซีนก็มีการีพูดคุยเรื่องขยายการฉีดกลุ่มอายุ 12-17 ปี โดยกระทรวงศึกษาธิการ รายงานว่าโรงเรียนมีหลายสังกัดทั้ง ศธ. ตำรวจตะเวนชายแดน โรงเรียนพระปริยัติธรรม โรงเรียนศึกษาปอเนาะ เอกชน เตรียมทหาร เยาวชนทั้งหมดจะอยูในการดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ผ่านมามีการชี้แจงไปยังสถานศึกษา ส่งแบบสำรวจแบบฟอร์ม ให้สถานศึกษาสำรวจชี้แจงผู้ปกครองการฉีดในบุตรหลาน มีการแสดงความจำนงกลับมา ขอให้ติดตามนโยบายการฉีดวัคซีน ย้ำว่าอายุ 12-17 ปี ยังไม่รวมกลุ่มอายุน้อย ซึ่งบริษัทบางแห่งฉีดบางประเทศตั้งแต่ 3 ขวบ แต่ อย.เรายังไม่รับรอง ยังต้องรอให้บริษัทยื่นเรื่องตามขั้นตอน เพราะต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัย