วัฒนธรรมที่บอกให้ “ดึงดั้ง” เป็นแนวความคิดที่บ่งบอกถึงอุดมคติที่สืบทอดกันมา ซึ่งไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าอุดมคตินี้เกิดขึ้นเมื่อไร อีกทั้งการนำความเชื่อนี้มาพิสูจน์ ด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ออกมายืนยันว่าการบีบจมูก ดึงดั้ง ช่วยให้ลูกโด่งขึ้น เพราะรูปทรงของจมูกของแต่ละคนมีลักษณะแตกต่างกันไปตามพันธุกรรมที่ส่งผ่านดีเอ็นเอ จากพ่อแม่หรือบรรพบุรุษ รวมถึงลักษณะการเจริญเติบโตของกระดูดที่ถูกกำหนดมาแล้วตามธรรมชาติ
‘ดั้งจมูกแตก–หัก’ รีบพบแพทย์ด่วน เหตุอาจกระทบต่อสมอง !?
สวมหน้ากากอนามัยให้เด็กเล็ก อันตรายหรือไม่?
ส่วนประกอบที่ทำให้จมูกโด่ง
1. กระดูกแข็ง (Nasal Bone) ในเด็กผู้หญิงจะเจริญเติบโตถึงอายุ 16 ปีและในเด็กผู้ชายถึงอายุ 18 ปี โดยเป็นกระดูกส่วนที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุทำให้ดั้งหัก
2. กระดูกอ่อน (Nasal Septum) ของเด็กจะเจริญเติบโตมากตั้งแต่อายุขวบปีแรกถึง 20 ปี
3. กรรมพันธุ์จากพ่อแม่ ขึ้นอยู่กับลักษณะทางพันธุกรรมเด่นในแต่ละบุคคล
ผลเสียจากการดึงจมูกเด็ก
1.เด็กเกิดความรำคาญ
2.อาการบวมแดงบริเวณจมูก
3.แผลถลอกหรือผิวหนังอักเสบ
4.บริเวณจมูก หากใช้ไม้หนีบ
ทั้งนี้แม้ว่าการดึงจมูกมักไม่ส่งผลหรือเกิดผลกระทบรุนแรงใด ๆต่อเด็ก แต่ไม่ควรดึงจมูกอย่างรุนแรงเพราะอาจเกิดอันตรายกับเยื่อบุโพรงจมูกและผิวหนังบริเวณจมูกของเด็กได้
ดังนั้น ผู้ปกครองควรใส่ใจเกี่ยวกับอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับจมูกของเด็ก เช่น โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ถึงร้อยละ 50 โดยสังเกตได้จากอาการน้ำมูกใหลบ่อย ๆ คัดจมูก หรือโรคอื่น ๆ เช่น นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ หรือภาวะสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก จมูกอาจมีกลิ่นเหม็น ภาวะที่จมูกโตผิดปกติ อาจมีเนื้องอกดันขึ้นมา หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์
ที่มา
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย